แอปเปิล เป็นผลไม้ที่ต้องกินทุกวัน เพราะมีประโยชน์มากมาย ทั้งต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตัน หรือใช้กินเพื่อลดน้ำหนัก แถมยังกระตุ้นการขับถ่ายได้อีกด้วย

แอปเปิล ผลไม้ที่กินได้ทุกวัน

แอปเปิล เป็นผลไม้เมืองหนาวที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มีมากถึง 7,500 สายพันธุ์ ซึ่งแอปเปิลแต่ละสายพันธุ์ยังมีสีที่แตกต่างกันอีกด้วย โดยทั่วไปแล้วจะประกอบไปด้วยแอปเปิลสีแดง แอปเปิลสีชมพู แอปเปิลสีเขียว และแอปเปิลสีเหลือง สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ แอปเปิลแดง กาล่า ฟูจิ เป็นต้น วิธีการกินแอปเปิล สามารถกินได้ทั้งผลสด น้ำแอปเปิล หรือจะนำไปประกอบอาหาร และทำขนมหวานได้ ถือว่าเป็นผลไม้ที่พบเห็นได้ทั่วไป หาง่าย และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

คุณค่าทางโภชนาการของแอปเปิล

แอปเปิลเป็นแหล่งรวมสารอาหารที่ดี เช่น วิตามินซี สารต้านอนุมูลอิสระ และแร่ธาตุต่างๆ1 ซึ่งมีส่วนช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบย่อยอาหาร บำรุงสุขภาพสมอง ชะลอวัย และควบคุมน้ำหนัก รวมถึงช่วยป้องกันโรคเรื้อรังบางชนิดได้ เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ และเบาหวานชนิดที่สอง5

ประโยชน์และสารอาหารที่อยู่ในแอปเปิล

แอปเปิลอุดมไปด้วยสารอาหาร และวิตามินต่างๆ ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดี ดังนั้นประโยชน์ของแอปเปิลจึงมีมากมาย อาทิ

1. ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ

แอปเปิลอุดมไปด้วยโพลีฟีนอล จากงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง พบว่าเปลือกแอปเปิลมีสารโพลีฟีนอล และฟลาโวนอยมากกว่าส่วนอื่นๆ มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสียหาย และเสริมเกราะป้องกันให้กับเซลล์ในร่างกาย ช่วยชะลอกระบวนการแก่ชราในผู้ที่มีอายุมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอล และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย6

นอกจากแอปเปิลจะมีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระแล้ว โพลีฟีนอล และฟลาโวนอยในแอปเปิลยังมีส่วนช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร ควบคุมน้ำหนัก ดูแลอาการโรคเบาหวาน และระบบประสาทอีกด้วย1

2. เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย

ในแอปเปิลมีวิตามินต่างๆ มากมายหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินซี ที่เป็นสารสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย วิตามินซีช่วยในการกระตุ้นการผลิตเม็ดเลือดขาว ช่วยเสริมการทำงานของเม็ดเลือดขาว ช่วยทำลายเชื้อโรค ไวรัส และแบคทีเรียต่างๆ ป้องกันโรคหวัด ภูมิแพ้ ต้านทานโรคต่างๆ ได้3

ผสานคุณค่า วิตามิน
เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์

3. ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง

งานวิจัยระบุว่าการกินแอปเปิลทุกวันมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอด เนื่องจากมีสารฟลาโวนอยด์ในปริมาณสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟลาโวนอยด์ชนิดเควอซิทิน ที่พบว่ามีส่วนในการลดการเจริญเติบโตของมะเร็งปอด จะเห็นผลได้ดียิ่งขึ้นในกลุ่มผู้อายุน้อย และกลุ่มที่ไม่สูบบุหรี่2

4. บรรเทาอาการหอบหืด และส่งเสริมการทำงานของปอด

ผลการทดลองในกลุ่มตัวอย่าง 1,600 คน ในออสเตรเลีย พบว่า การกินแอปเปิล และลูกแพร์มีส่วนในการลดความเสี่ยงอาการหอบหืด และอาการภูมิแพ้ เนื่องจากแร่ธาตุซีลีเนียมที่มีในแอปเปิลเป็นตัวลดความเสี่ยงดังกล่าว นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยอื่นๆ ที่ระบุว่าสารคาเทชินในแอปเปิลช่วยเสริมการทำงานของปอด รวมไปถึงลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอาการปอดอุดกั้นเรื้อรังอีกด้วย2

5. ช่วยลดคอเลสเตอรอล

แอปเปิลมีสรรพคุณสำคัญในเรื่องของการลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากแอปเปิลมีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้ นอกจากจะลดคอเลสเตอรอลในเลือดและไขมันตับแล้ว ยังช่วยเพิ่มปริมาณไขมันดีในร่างกายด้วย ซึ่งจากการทดลองในสัตว์ก็ยังคงได้ผลที่ไปในทางเดียวกัน คือ การกินแอปเปิลยังส่งผลต่อการลดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้มากกว่าผลไม้อื่นๆ ที่นำมาทดลอง2

6. ช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตัน

แอปเปิลมีสารฟลาโวนอยด์ชนิดเควอซิทิน ที่มีส่วนช่วยการทำงานของหลอดเลือด ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ จากการศึกษาวิจัยพบว่าสารฟลาโวนอยด์ในแอปเปิลมีส่วนในการเพิ่มระดับไนตริกออกไซด์ในร่างกายได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมการทำงานของหลอดเลือด และระดับความดันโลหิต จึงอาจจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และโรคหัวใจ1

7. ควบคุมน้ำหนัก

จากการศึกษาที่เกี่ยวข้องพบว่าเควอซิทินที่มีอยู่มากในเปลือกแอปเปิลนั้น มีความเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน และยังช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักด้วย จากการทดลองโดยการเปรียบเทียบการกินอาหารประเภทต่างๆ เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ พบว่า กลุ่มที่กินแอปเปิลสามารถลดน้ำหนักได้ 1.21 กิโลกรัม อีกทั้งยังสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย2

วิธีการกินแอปเปิล

แอปเปิลเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ โดยการกินแอปเปิลนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีความแตกต่างกันออกไป ดังนี้

  • กินสด : แน่นอนว่าแอปเปิลเป็นผลไม้ที่สามารถกินสดๆ ได้ทั้งลูก โดยไม่ต้องนำไปแปรรูปใดๆ ซึ่งผลสุกสีแดงจะมีประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากสารอาหารส่วนใหญ่จะอยู่ที่เปลือกของแอปเปิล แต่ต้องระวังปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง
  • ประกอบเป็นอาหาร : แอปเปิลมักถูกเลือกไปทำเป็นของหวาน เช่น การทำแยม สลัดผักผลไม้ หรือกินคู่กับแพนเค้ก แต่เช่นเดียวกันกับการกินสด ต้องระวังปริมาณน้ำตาลในส่วนผสมด้วย
  • สกัดเป็นอาหารเสริม : มีการนำแอปเปิลมาสกัดเป็นอาหารเสริม เพื่อให้ได้ประโยชน์เข้มข้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสารอาหารอย่างครบถ้วน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำตาล การกินอาหารเสริมที่มีสารสกัดจากแอปเปิลจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี

ผสานคุณค่า วิตามิน
เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์

ข้อควรระวังในการกินแอปเปิล

แอปเปิลเป็นผลไม้ที่กินได้ทุกเพศทุกวัย เพราะกินง่าย และมีคุณประโยชน์มากมาย แต่การกินแอปเปิลนั้นก็มีส่วนที่ต้องระมัดระวังอยู่ โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงการกินเมล็ดแอปเปิล เพราะเมล็ดแอปเปิลมีสารไซยาไนด์ที่เป็นพิษต่อร่างกาย และยังต้องระวังในเรื่องของสารเคมีปนเปื้อนจากการเพาะปลูกด้วย การกินแอปเปิลจึงควรทำความสะอาดผลให้ดีก่อนเพื่อความปลอดภัย1

ผู้ที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินแอปเปิล1

  • หญิงตั้งครรภ์ และหญิงที่กำลังให้นมบุตร - สามารถกินแอปเปิลได้ในปริมาณพอดี ไม่ควรกินในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายในแง่ที่ได้รับสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป
  • ผู้ที่แพ้ผลไม้บางอย่าง - ผู้ที่แพ้แอพริคอต อัลมอนด์ พีช ลูกพลัม และลูกแพร์ หากต้องการกินแอปเปิลควรศึกษาข้อมูลก่อน หรืออาจปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อป้องกันอาการแพ้ที่อาจเกิดขึ้น
  • ผู้ป่วยเบาหวาน - ควรระวังในเรื่องของระดับน้ำตาลในเลือด และจำกัดปริมาณการกินแอปเปิลและน้ำแอปเปิล เพราะจะมีส่วนทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้

ผสานคุณค่า วิตามิน
เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์

สรุป

แอปเปิล ผลไม้ที่พบได้ทั่วไป กินได้ง่าย อร่อยและมีคุณประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง เสริมสร้างการทำงานของปอด ลดความเสี่ยงโรคหอบหืด ลดคอเลสเตอรอล และช่วยลดน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแอปเปิลจะมีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกาย แต่ก็ควรระมัดระวังไม่กินเมล็ดแอปเปิล และระวังสารเคมีปนเปื้อนที่อาจเป็นพิษต่อร่างกายได้ ผู้ที่มีข้อจำกัดบางอย่างทางสุขภาพอาจปรึกษาแพทย์ก่อนจะกินแอปเปิล

ข้อมูลอ้างอิง
  1. เมดไทย. แอปเปิ้ล สรรพคุณและประโยชน์ของแอปเปิ้ล 19 ข้อ !. medthai.com. Published 6 September 2020. Retrieved 23 November 2023.
  2. Jeanelle Boyer1 and Rui Hai Liu. Apple phytochemicals and their health benefits. Nlm.nih.gov. Published 12 May 2004. Retrieved 23 November 2023.
  3. Phyathai. อยากเสริมภูมิคุ้มกันด้วยอาหาร ต้องกินอะไรให้ได้ประไยชน์เต็มๆ. Phyathai.com. Retrieved 23 November 2023.
  4. PPTV Online. รู้หรือไม่ แอปเปิ้ล สีต่างกันก็ให้คุณค่าทางโภชนาการก็ต่างกัน. Pptvhd36.com. Published 13 October 2021. Retrieved 23 November 2023.
  5. Lindsey DeSoto. Health Benefits of Apples. Health.com. Published 25 August 2023. Retrieved 23 November 2023.
  6. โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน. สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) คืออะไร ?. paolohospital.com. Published 27 April 2021. Retrieved 23 November 2023.
shop now