Bilberry Extract คือสารสกัดบิลเบอร์รี ที่อุดมไปด้วยสารไฟโตนิวเทรียนท์กลุ่มแอนโทไซยานิน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ต้านอนุมูลอิสระ ลดการเสื่อมของเซลล์ และช่วยบำรุงสายตา
ทำความรู้จักกับ บิลเบอร์รี
บิลเบอร์รี เป็นไม้พุ่มขนาดเล็กในตระกูลเบอร์รีความสูงประมาณ 0.5 - 2 เมตร3 มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Vaccinium myrtillus5 นอกจากเรียกว่า Bilberry แล้ว ผลไม้ชนิดนี้ยังมีชื่อสามัญอื่นๆ ได้แก่ European blueberry, Whortleberry และ Huckleberry4 ซึ่งลักษณะทั่วไปของบิลเบอร์รี คือ ผลไม้ลูกกลมขนาดเล็ก 1-2 เซนติเมตร คล้ายกับผลบลูเบอร์รี เปลือกด้านนอกสีน้ำเงินเข้ม เนื้อด้านในมีสีขาวแกมเขียว3 มีถิ่นกำเนิดทางตอนเหนือของทวีปยุโรป เอเชีย สหรัฐอเมริกา และแคนาดา5
สำหรับการนำไปใช้ประโยชน์ ในอดีตทางการแพทย์ส่วนใหญ่ใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วยจากอาการต่างๆ นอกจากนั้นนิยมกินผลสดเพื่อบำรุงสายตาอีกด้วย5
ปัจจุบันแม้บิลเบอร์รีไม่ได้ถูกนำไปใช้ทางการแพทย์แบบเดิม แต่ถูกนำมาใช้กินเพื่อบำรุงสุขภาพ เนื่องจากมีสารสำคัญหลายชนิด ซึ่งที่พบมากที่สุดคือ แอนโทไซยานิน1 มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ บำรุงหลอดเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด ต้านการอักเสบ และบำรุงสายตา2 โดยนอกจากกินผลสดแล้ว ยังนิยมนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร และอาหารเสริมบำรุงสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น ชาบิลเบอร์รี แยมบิลเบอร์รี เป็นส่วนผสมในอาหารเพื่อสุขภาพ และสารสกัดจากบิลเบอร์รี6
คุณค่าทางโภชนาการ และสารอาหารสำคัญของบิลเบอร์รี
บิลเบอร์รี ประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และให้วิตามินสูง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเสริมภูมิคุ้มกัน และบำรุงระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกาย ดังนี้4
- สารไฟโตนิวเทรียนท์กลุ่มแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) สารที่ทำให้เกิดสีในผักผลไม้ ช่วยเรื่องการต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และลดกระบวนการออกซิเดชันของไขมันชนิด LDL6
- แทนนิน (Tannins) มีคุณสมบัติช่วยสมานบาดแผล ต้านการอักเสบ บรรเทาอาการท้องเสียอาหารไม่ย่อย2
- วิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 64 เป็นต้น
สรรพคุณ และประโยชน์ของบิลเบอร์รี
จากข้อมูลด้านโภชนาการ และสารอาหารสำคัญในบิลเบอร์รี จะเห็นว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง การกินผลบิลเบอร์รีสดหรืออาหารเสริมที่มีสารสกัดจากบิลเบอร์รี จะส่งผลดีต่อสุขภาพ และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ โดยสารสกัดจากบิลเบอร์รีมีสรรพคุณ ดังนี้
เสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ
สรรพคุณแรกของบิลเบอร์รีสด และสารสกัดจากบิลเบอร์รี คือ การช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ต่อต้านอนุมูลอิสระ และลดการอักเสบ เนื่องจากในบิลเบอร์รีมีสารสำคัญที่ชื่อว่า “สารไฟโตนิวเทรียนท์กลุ่มแอนโทไซยานิน” รวมทั้งวิตามินซี และกรดฟีโรลิก ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์ไม่ให้เกิดความเสียหาย ควบคุมปริมาณอนุมูลอิสระ และปรับสมดุลภายในร่างกาย6 ดังนั้นหากกินบิลเบอร์รีสด หรือสารสกัดจากบิลเบอร์รีเป็นประจำจะช่วยลดการอักเสบ กระบวนการเสื่อมของร่างกาย และความเสี่ยงโรคเรื้อรังด้วย2
สารสกัดบิลเบอร์รี
เสริมภูมิคุ้มกัน
บำรุงดวงตา
มีการบันทึกว่านักบินทหารของประเทศอังกฤษกินบิลเบอร์รีบํารุงสายตามาตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งพบว่าช่วยลดอาการตาล้าจากการใช้สายตาเป็นเวลานาน และทำให้มองเห็นในช่วงเวลากลางคืนได้ดีมากขึ้น2 หลังจากนั้นจึงได้มีการศึกษาสารไฟโตนิวเทรียนท์กลุ่มแอนโทไซยานินเพิ่มเติม พบว่ามีสรรพคุณช่วยปกป้องจอตา ลดโอกาสการเกิดปัญหาจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อหิน อาการตาล้าจากการใช้ดวงตาเป็นเวลานาน7
ดังนั้นการกินบิลเบอร์รีสดซึ่งมีแอนโทไซยานินสูงถึง 90% อาจมีส่วนช่วยในบำรุงสายตา และลดความเสี่ยงในการเป็นโรคตาชนิดต่างๆ ได้3
ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน
ผลวิจัยพบว่าผลบิลเบอร์รี หรืออาหารเสริมที่มีสารสกัดจากบิลเบอร์รี ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะการกินร่วมกับข้าวโอ๊ต จึงคาดว่าการกินผลบิลเบอร์รี รวมถึงอาหารเสริมที่มี สารสกัดจากบิลเบอร์รีอาจมีประสิทธิภาพในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้เช่นเดียวกับผลไม้ตระกูลเบอร์รีชนิดอื่นๆ2
ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
งานวิจัยศึกษาหลายชิ้นได้พิสูจน์ว่าสารสำคัญในบิลเบอร์รี ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องโรคหัวใจ และหลอดเลือด4 อย่างสารอาหารกลุ่มแอนโทไซยานินจากบิลเบอร์รี และผลไม้ตระกูลเบอร์รีชนิดอื่นๆ ช่วยเพิ่มระดับ HDL (High-Density Lipoproteins) และลดระดับ LDL (Low-Density Lipoproteins) หรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีในเลือดเมื่อกินติดต่อกัน
บิลเบอร์รียังมีวิตามินซีที่มีการวิจัยจำนวนมากบ่งชี้ว่าช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและวิตามินเคที่มีคุณสมบัติช่วยควบคุมการแข็งของเลือด อีกทั้งยังกระตุ้นการทำงานของระบบการไหลเวียนโลหิตให้ดีขึ้นอีกด้วย6
ป้องกันสารก่อโรคมะเร็ง
หากร่างกายสะสมอนุมูลอิสระเอาไว้มาก จะส่งผลให้เกิดการอักเสบ และเซลล์เสื่อมเร็วขึ้น6 เพราะฉะนั้นการกินผลบิลเบอร์รี หรืออาหารเสริมที่มีสารสกัดจากบิลเบอร์รี เป็นสิ่งประจำในการช่วยลดการสะสมของสารอนุมูลอิสระในร่างกาย ป้องกันความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง4
ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์
สาเหตุหลักที่ทำให้เป็นโรคอัลไซเมอร์คือ อายุ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นเซลล์สมองจะค่อยๆ เสื่อมลง จนกระทั่งกลายเป็นภาวะสมองเสื่อม และกลายเป็นโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก ด้วยร่างกายต้องเสื่อมไปตามอายุที่มากขึ้น แต่หากได้รับสารอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ลดการเสื่อมของเซลล์ อย่างบิลเบอร์รีสด หรืออาหารเสริมที่มีสารสกัดจากบิลเบอร์รี จะสามารถช่วยลดความเสี่ยง และชะลอการเกิดโรคอัล
ดูแลรักษาระบบทางเดินอาหารให้ทำงานปกติ
สารสำคัญในบิลเบอร์รี อย่างแทนนินและแพกติน มีสรรพคุณช่วยลดการอักเสบในระบบย่อยอาหาร ลดอาการท้องเสีย นอกจากนั้นยังช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ และอาหารไม่ย่อยอีกด้วย4
การกินบิลเบอร์รีอย่างถูกวิธี
การกินบิลเบอร์รีสามารถกินได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบของผลสด ผลแห้ง แช่แข็ง และสารสกัดจากบิลเบอร์รี ก็ได้สารอาหาร และสารสำคัญเหมือนกัน ในส่วนของการกินผลสดให้เลือกบิลเบอร์รีที่ผลสดมีผิวเรียบเนียน ไม่สุกเกินไป และที่สำคัญระมัดระวังเรื่องราที่ติดมากับผล ดังนั้นก่อนกินควรล้างให้สะอาด หากกินไม่หมดควรแช่เย็น4
ส่วนการใช้สารสกัดจากบิลเบอร์รีตามมาตรฐานควรเลือกที่มีปริมาณแอนโทไซยานิน 25% ขึ้นไป2 แต่อย่างไรก็ตาม นอกจากการกินผลสด และสารสกัดแล้ว สามารถนำไปทำเป็นเมนูอาหาร และแปรรูปเป็นอาหารรูปแบบต่างๆ เพื่อให้กินง่ายขึ้น เช่น ชาบิลเบอร์รี แยมบิลเบอร์รี เยลลี่บิลเบอร์รี พายบิลเบอร์รี เค้กบิลเบอร์รี แพนแค้กบิลเบอร์รี สมูทตี้บิลเบอร์รี หรือกินคู่กับโยเกิร์ต นม กราโนล่า4 เป็นต้น ทั้งนี้ไม่ควรกินมากเกินไป และผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ควรระวังเรื่องปริมาณน้ำตาลในอาหารดังกล่าว
ข้อควรระวังในการกินบิลเบอร์รี
สำหรับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร ผู้ป่วยที่กินยาต้านการแข็งตัวของเลือด ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ต้องกินยาเป็นประจำ และเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี ควรหลีกเลี่ยงการกินผลบิลเบอร์รีสด บิลเบอร์รีแช่แข็ง สารสกัดจากบิลเบอร์รี หรืออาหารเสริมที่มีส่วนผสมของบิลเบอร์รี เพราะอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยากับยาที่กินเป็นประจำ หรือผลข้างเคียงกับร่างกาย แต่หากต้องการกินควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพก่อนกิน2
สารสกัดบิลเบอร์รี
เสริมภูมิคุ้มกัน
สรุป
บิลเบอร์รี หนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รีเป็นผลไม้มากประโยชน์ อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และสารอาหารสำคัญหลายชนิด ทั้งแทนนิน ฟลาโวนอยด์ กลูโคควินิน วิตามิน เกลือแร่ และที่สำคัญสารไฟโตนิวเทรียนท์กลุ่มแอนโทไซยานินที่มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ และบำรุงสายตา อีกทั้งยังสามารถกินได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งผลสด ผลแห้ง และสารสกัดจากบิลเบอร์รี แต่ไม่ว่าจะเลือกกินแบบไหนก็ได้สารอาหารครบถ้วน ช่วยเสริมสุขภาพเหมือนกัน