|
ร้อนในรักษาได้! ร้อนในเกิดจากหลายสาเหตุ ทั้งความเครียด พักผ่อนน้อย และขาดวิตามิน วิธีแก้ร้อนในแบบเร่งด่วน มีทั้งการรักษาด้วยตัวเองและการรักษาทางการแพทย์
อาการร้อนในที่สังเกตได้
แผลร้อนในเป็นแผลเกิดได้ทั้งที่เหงือกและที่ลิ้น มีลักษณะเป็นวงกลมหรือวงรี สีขาวหรือเหลือง รอบๆ จะมีสีแดง และมีขนาดตั้งแต่ 1 มิลลิเมตรจนถึง 0.5 - 1 นิ้ว ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการเจ็บหรือระคายเคืองเวลาเคี้ยวอาหาร ดื่มน้ำ หรือพูดคุย สาเหตุของแผลร้อนในเกิดจากการบาดเจ็บในช่องปาก การกินอาหารที่มีกรด หรือความเครียด มักไม่เกิดจากการติดเชื้อ แต่บางครั้งอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน แผลร้อนในแตกต่างจากเริมที่ปาก ซึ่งเป็นตุ่มน้ำใสที่เกิดจากไวรัส Herpes Simplex และสามารถติดต่อได้ผ่านการจูบหรือการมีเพศสัมพันธ์1
แผลร้อนในแบ่งเป็น 2 ประเภท โดยแผลร้อนในทั่วไปมักเกิดขึ้น 3 - 4 ครั้งต่อปี และจะหายเองภายใน 2 สัปดาห์ ส่วนแผลร้อนในแบบซับซ้อนพบได้น้อย มักเกิดในผู้ที่มีประวัติแผลร้อนในบ่อยหรือภูมิคุ้มกันต่ำ1
แผลร้อนในเกิดจากอะไร?
แผลร้อนในทั้งที่เหงือกและที่ลิ้นเกิดจากการขาดวิตามินและสารอาหาร การบาดเจ็บในช่องปาก การแพ้อาหารและสารเคมี ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ดังนี้
1. ขาดวิตามินและสารอาหาร
แผลร้อนในเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่การขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด เช่น วิตามินบี 12 เหล็ก สังกะสี และกรดโฟลิก1 เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดแผลในช่องปาก เนื่องจากสารอาหารเหล่านี้ช่วยสร้างและบำรุงเซลล์เยื่อบุในช่องปาก การขาดสารเหล่านี้จะทำให้เยื่อบุช่องปากอ่อนแอลงและเกิดการอักเสบได้ง่าย เช่น วิตามินบี 12 ช่วยสร้างเซลล์เยื่อบุและระบบประสาท เหล็กช่วยขนส่งออกซิเจนไปยังเซลล์ สังกะสีเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยให้แผลหายเร็ว และกรดโฟลิกช่วยในการสร้างเซลล์ใหม่ หากขาดสารเหล่านี้อาจทำให้เกิดแผลได้ง่าย ดังนั้น การกินอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วนจึงเป็นวิธีป้องกันการเกิดแผลร้อนในได้
2. บาดเจ็บในช่องปาก
การบาดเจ็บในช่องปาก เช่น การกัดโดน การเสียดสีจากฟันปลอมหรือเหล็กดัดฟัน หรือการแปรงฟันแรงเกินไป สามารถทำให้เกิดแผลร้อนในได้2 โดยการบาดเจ็บจะทำลายเยื่อบุช่องปาก ทำให้เกิดรอยแยกและแผลเปิด ซึ่งไวต่อการระคายเคืองและอักเสบ นอกจากนี้ ร่างกายจะกระตุ้นปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันเพื่อตอบสนองต่อการบาดเจ็บ ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบและแผลร้อนในตามมา ขณะที่รอยแผลเปิดยังเป็นช่องทางให้แบคทีเรียเข้าสู่ช่องปากและทำให้แผลรุนแรงยิ่งขึ้น
3. แพ้อาหารและสารเคมี
การแพ้อาหารและสารเคมีบางชนิดกระตุ้นให้เกิดแผลร้อนในได้ผ่านกลไกต่างๆ เช่น การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันเมื่อร่างกายสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบในเยื่อบุช่องปาก หรือการระคายเคืองจากสารเคมีบางชนิด ทั้งสารปรุงแต่งรสและสารกันบูด ที่ทำให้เยื่อบุช่องปากอ่อนแอและเกิดแผลร้อนใน
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงในระบบภูมิคุ้มกันจากการแพ้อาหารหรือสารเคมียังเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดแผลร้อนในได้ ตัวอย่างของสารกระตุ้น เช่น อาหารรสเปรี้ยว สารปรุงแต่งรส สารกันบูด และสารเคมีในยาสีฟันหรือยาบ้วนปาก3 ดังนั้น การหลีกเลี่ยงสิ่งที่แพ้หรือระคายเคืองสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้
4. ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอ
ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เสี่ยงเกิดแผลร้อนในได้ง่ายขึ้น3 โดยความเครียดเรื้อรังและการนอนหลับไม่เพียงพอส่งผลให้เกิดการลดประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายจึงไม่สามารถต้านทานการอักเสบได้ดี
นอกจากนี้ ความเครียดยังเพิ่มระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ที่สามารถรบกวนการทำงานของภูมิคุ้มกันและทำให้เกิดการอักเสบได้ง่ายขึ้น การจัดการความเครียดด้วยวิธีต่างๆ เช่น การทำสมาธิ การออกกำลังกาย หรือการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันแผลร้อนในและรักษาสุขภาพช่องปาก
5. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกายมีผลต่อเยื่อบุช่องปากและเพิ่มโอกาสในการเกิดแผลร้อนใน โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนจากรอบประจำเดือน การตั้งครรภ์ หรือการหมดประจำเดือน3 ทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนและส่งผลต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้เยื่อบุช่องปากไวต่อการอักเสบได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนยังส่งผลต่อความชุ่มชื้นและความแข็งแรงของเยื่อบุช่องปาก ทำให้แผลร้อนในเกิดได้ง่ายขึ้น
_1.jpg)
ทำไมบางคนเป็นร้อนในบ่อย
พันธุกรรม
ปัจจัยทางพันธุกรรมมีบทบาทสำคัญที่ทำให้บางคนมีแนวโน้มเป็นแผลร้อนในบ่อยๆ โดยมีปัจจัยต่างๆ เช่น ความไวของระบบภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นอย่างอาหารหรือความเครียด ความแข็งแรงของเยื่อบุช่องปากที่อาจทำให้เกิดแผลร้อนในได้ง่าย และการตอบสนองต่อการอักเสบที่รุนแรงกว่าคนอื่น
บางโรคทางพันธุกรรม เช่น โรคเบเช็ท (Behçet's disease)3 ก็ทำให้เกิดแผลร้อนในได้บ่อยขึ้น หากมีประวัติครอบครัวเป็นแผลร้อนในบ่อยๆ อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นแผลร้อนในเช่นกัน แต่พันธุกรรมเป็นเพียงหนึ่งในหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดแผลร้อนในเท่านั้น
ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องทำให้เป็นร้อนในบ่อยๆ4 เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอและไม่สมดุลนั้นไม่สามารถควบคุมการอักเสบในช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบที่รุนแรงและแผลหายช้า การตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นเล็กๆ ในช่องปากมากเกินไปอาจทำให้แผลร้อนในเกิดซ้ำได้บ่อยขึ้น
นอกจากนี้ ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอยังทำให้ร่างกายเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อราในช่องปาก ซึ่งสามารถกระตุ้นให้เกิดแผลร้อนในหรือทำให้แผลที่มีอยู่แย่ลงได้ อีกทั้งในบางโรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง เช่น โรคเบเช็ท ก็สามารถทำให้เกิดแผลร้อนในซ้ำๆ ได้ ผู้ที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่องจึงมีความเสี่ยงสูงที่จะประสบปัญหานี้บ่อยและรุนแรงกว่า
พฤติกรรมการกินและสุขภาพภายใน
พฤติกรรมการกินและสุขภาพภายในมีบทบาทสำคัญทำให้เป็นร้อนในบ่อยๆ เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อความสมดุลของร่างกายและระบบภูมิคุ้มกัน เช่น การขาดสารอาหารสำคัญ อย่างวิตามินบี 12 เหล็ก สังกะสี และกรดโฟลิก1 ที่ทำให้เยื่อบุช่องปากอ่อนแอลงและเกิดแผลร้อนในได้ง่ายขึ้น รวมถึงการกินอาหารที่ระคายเคือง เช่น อาหารรสจัดหรืออาหารที่มีความเป็นกรดสูง ซึ่งกระตุ้นให้เกิดแผลร้อนในได้บ่อยๆ
นอกจากนี้ ปัญหาสุขภาพภายใน เช่น โรคลำไส้อักเสบหรือความไม่สมดุลของแบคทีเรียในลำไส้ ก็เพิ่มความเสี่ยงเกิดแผลร้อนในได้ ดังนั้น การดูแลสุขภาพช่องปากและร่างกายโดยรวมให้ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันอาการนี้
_2.jpg)
วิธีแก้ร้อนในแบบเร่งด่วน
ร้อนในเป็นปัญหาที่น่าหงุดหงิดใจ แต่มีวิธีแก้ร้อนในแบบเร่งด่วนที่ได้ผลและปลอดภัย เริ่มจากการปรับเปลี่ยนอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง และอาจใช้ยาบรรเทาอาการที่ปลอดภัย เพื่อให้หายจากร้อนในอย่างรวดเร็วและไม่มีผลข้างเคียง
เลี่ยงอาหารรสจัด
เมื่อเป็นแผลในปาก ควรเลือกกินอาหารอย่างระมัดระวัง ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่อาจกระตุ้นความระคายเคือง เช่น อาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หรือมีกรดสูง ไม่ว่าจะเป็นส้มตำ ต้มยำ และยำต่างๆ รวมถึงอาหารแข็งกรอบ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จะยิ่งทำให้แผลเจ็บปวดมากขึ้น5
กลั้วปากด้วยน้ำเกลืออุ่น
น้ำเกลือเป็นวิธีธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพช่องปาก ด้วยคุณสมบัติการต้านเชื้อแบคทีเรีย ช่วยยับยั้งการสะสมของเชื้อโรคและลดอาการระคายเคือง ซึ่งสามารถเตรียมได้ง่ายๆ โดยการผสมเกลือ 1 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 ถ้วย วิธีใช้คือกลั้วปากประมาณ 5 - 10 วินาที แล้วบ้วนออก ทำซ้ำได้หลายครั้งต่อวัน จนกระทั่งแผลร้อนในเริ่มดีขึ้น5
ยาทาเฉพาะที่
ร้อนในเป็นปัญหาที่น่าหงุดหงิดใจ แต่โชคดีที่มียาหลายชนิดช่วยบรรเทาอาการ โดยเฉพาะยาเบนโซเคน (Benzocaine) ที่จำหน่ายในรูปแบบยาขี้ผึ้งสำหรับทาแผลในปาก และหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป อย่างไรก็ตาม การใช้ยาอย่างถูกต้องและปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากหรือคำปรึกษาจากเภสัชกรอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ประโยชน์และป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้5
กินอาหารอ่อนๆ
ควรหันมาเน้นกินอาหารอ่อนนุ่ม รสจืด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ไข่ตุ๋น หรือต้มจืด ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการและช่วยให้แผลในปากหายเร็วขึ้น นอกจากนี้ การดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ แทนเครื่องดื่มร้อนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้นด้วยเช่นกัน5
_3.jpg)
วิธีป้องกันร้อนใน ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ
แม้อาการร้อนในจะมีวิธีรักษาได้ แต่จะดีกว่าไหม? ถ้าเราป้องกันไม่ให้เกิดตั้งแต่แรก ไปดูวิธีป้องกันเพื่อลดโอกาสการเกิดร้อนในกัน!
- กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ลดความเสี่ยงการเกิดร้อนใน วิตามินและแร่ธาตุที่ได้จากอาหารครบ 5 หมู่มีส่วนช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อในช่องปาก ลดการอักเสบ และส่งเสริมการฟื้นตัวของแผล4
- เลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น อาหารรสจัด ของทอด หรืออาหารที่มีความเป็นกรดสูง ที่ทำให้ระคายเคืองเยื่อบุช่องปากและกระตุ้นให้เกิดร้อนในได้ การเลี่ยงอาหารพวกนี้จะช่วยลดโอกาสเกิดแผลในปาก และบรรเทาอาการเจ็บปวด5
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยรักษาความชุ่มชื้นในช่องปาก ลดการเสียดสี และป้องกันการเกิดแผลร้อนใน น้ำยังช่วยในการชะล้างเศษอาหารและแบคทีเรียในช่องปาก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้ระคายเคือง
- หมั่นทำความสะอาดสุขภาพช่องปาก การแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอและใช้ไหมขัดฟันช่วยกำจัดเศษอาหารและแบคทีเรียที่อาจเป็นสาเหตุของการเกิดร้อนใน การดูแลสุขภาพช่องปากที่ดีช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและการอักเสบในช่องปาก5
- ออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายช่วยลดความเครียดและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพช่องปาก การออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น รวมถึงในช่องปาก ลดความเสี่ยงในการเกิดแผลร้อนใน
- จัดการกับความเครียด พักผ่อนให้พอ ความเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลเสียต่อระบบภูมิคุ้มกันและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดร้อนใน การจัดการกับความเครียดและการนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยรักษาสมดุลของร่างกายและลดโอกาสการเกิดร้อนใน
สรุป
แผลร้อนในมีลักษณะเป็นแผลวงกลมหรือวงรีสีขาวหรือเหลือง มีขอบแดง เกิดได้ทั้งที่เหงือกและที่ลิ้น ร้อนในเกิดจากการขาดวิตามิน การบาดเจ็บในช่องปาก การแพ้สารต่างๆ ความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ วิธีแก้ร้อนในแบบเร่งด่วนจึงควรเริ่มจากการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างดี เลือกกินอาหารอ่อนๆ และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด พร้อมทั้งกลั้วปากด้วยน้ำเกลือหรือใช้ยาบรรเทาอาการ เพื่อป้องกันไม่ให้ร้อนในกำเริบ ควรใส่ใจกับโภชนาการ การออกกำลังกาย และการจัดการความเครียดอย่างสม่ำเสมอด้วย