แรงบันดาลใจที่ผลักดันให้คนเราลดน้ำหนักได้นั้นมีหลากหลาย บางคนอยากลดเพื่อให้อายุยืนยาวขึ้น มีโอกาสอยู่ดูลูกแต่งงาน ดูหลานรับปริญญา บ้างก็อยากลดเพื่อให้กระโดดดิ่งทิ้งตัวลงจากคานได้ นัยว่าน้ำหนักที่มากเกินไปนั้นค้ำคานให้มั่นคงเกินควร และก็คงมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่อยากลดน้ำหนักเพื่อให้หุ่นดี มีซิกซ์แพ็คไว้อวดโลกยามใส่เสื้อเอวลอย หรือใส่บิกินีสวยๆ ไปทะเล แต่หลายคนกลับมีปัญหามาดับฝันในการอวดหุ่นสวย เพราะเมื่อน้ำหนักลดลงแล้วกลับแลดูโทรม หรือมีผิวที่หย่อนคล้อย ทั้งบริเวณใบหน้า หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน และต้นขา จนไม่กล้าอวดหุ่นสวยไปเลย

diet-skin-1.jpg

สาเหตุของปัญหาผิวหย่อนคล้อยหลังลดน้ำหนักนั้นอาจเปรียบเทียบได้ง่ายๆ กับลูกโป่ง คุณผู้อ่านลองนึกภาพลูกโป่งที่เคยมีลมอัดแน่นจนพองโต เมื่อปล่อยลมออก ผิวของลูกโป่งจะหย่อน ไม่ตึงแน่นเหมือนก่อนสูบลม ผิวของคนเราก็เช่นกัน เมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้น ผิวจะถูกยืดขยาย มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผิว โดยเฉพาะเส้นใยคอลลาเจนกับอิลาสตินแต่ เมื่อน้ำหนักลด โครงสร้างผิวที่เปลี่ยนไปแล้วอาจไม่สามารถคืนกลับสู่สภาพเดิมได้ ทั้งนี้มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการหย่อนคล้อยของผิว

diet-skin-2.jpg

  • พันธุกรรม ยีนส์หรือพิมพ์เขียวชีวิตของเรามีส่วนในการกำหนดความแข็งแรงของโครงสร้างผิว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ในคุณแม่หลังคลอด บางคนจะไม่มีปัญหาหย่อนคล้อยของหน้าท้องเลย ทั้งที่ไม่ได้ดูแลอะไร ในขณะที่บางคนกลับมีปัญหาหย่อนคล้อยและแตกลาย ทั้งที่ดูแลเป็นอย่างดี
  • อายุ คนที่ลดน้ำหนักตอนอายุน้อย โครงสร้างผิวยังแข็งแรง จะมีโอกาสเกิดการหย่อนคล้อยได้น้อยกว่า
  • น้ำหนักที่เปลี่ยนแปลงไป คนที่น้ำหนักตัวเกินมากและอ้วนมาเป็นเวลานาน จะมีโอกาสที่ผิวหย่อนคล้อยได้ง่ายกว่าคนที่อ้วนไม่มาก หรืออ้วนเป็นเวลาไม่นานนัก
  • ความเร็วในการลดน้ำหนัก พบว่าการลดน้ำหนักที่เร็วเกินไป จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการหย่อนคล้อยของผิวได้ โดยทั่วไปแล้ว เกณฑ์การลดน้ำหนักที่เหมาะสมคือ 0.5-1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ และที่สำคัญคือ ควรออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของชั้นกล้ามเนื้อร่วมไปด้วยขณะลดน้ำหนัก
  • ความแข็งแรงของผิว หลายคนประสบปัญหาผิวหย่อนคล้อยทั้งบริเวณใบหน้า แขน ท้อง และต้นขาหลังลดน้ำหนัก การทาครีมที่ให้ความชุ่มชื้น หรือครีมที่มีส่วนผสมของสารที่ส่งเสริมการสร้างคอลลาเจนและสารแอนตี้ออกซิแดนท์ เช่น เรตินอล อาซาอิเบอรี่ หรือกลุ่มเปปไทด์ เป็นประจำ จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับชั้นโครงสร้างผิว ลดความเสี่ยงจากการหย่อนคล้อย
  • ภาวะโภชนาการ การลดน้ำหนักแบบเน้นอดอาหาร หรือจำกัดแคลอรีมากๆ จะส่งผลให้กล้ามเนื้อฝ่อ และความแข็งแรงของโครงสร้างผิวเสียไปได้ จึงควรลดน้ำหนักแบบเน้นปรับอาหารมากกว่าอดอาหาร และให้ความสำคัญกับการกินโปรตีนดี เช่น ปลา ไข่ขาว เต้าหู้ ถั่ว และเน้นรับประทานผักผลไม้หลากสีเพื่อเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระให้กับผิว

diet-skin-3.jpg

การรีดน้ำหนักให้ลดลงนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การลดให้ผอมลงได้อย่างไม่เสียสุขภาพ ไม่โทรม และคงหุ่นสวยให้อยู่ได้ตลอดไปนั้น ต้องอาศัยปัจจัยสำคัญสองข้อ หนึ่งคือ “วินัย” ที่จะดูแลการรับประทานอาหารและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ไม่ละเลยที่จะปฏิบัติแม้น้ำหนักจะลดลงแล้ว และสองคือ “ความเข้าใจในเรื่องการกินอาหารอย่างถูกวิธี” ตระหนักว่าการลดน้ำหนักไม่ใช่การอดอาหาร แต่เป็นการเปลี่ยนมากินอย่างคนผอม และใช้ชีวิตอย่างคนผอม หากเข้าใจตรงกันตามนี้ได้ คุณก็จะหุ่นดีตลอดไป แบบไม่ต้องอดอาหารอีกเลย


บทความโดย

diet-skin-4.jpg

พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (หมอผิง) 
Twitter, Instagram: @thidakarn

shop now