กีวีสีทอง จุดเริ่มต้นของสุขภาพลำไส้ที่ดี ผลไม้ที่กินได้ทุกวัน เพราะเป็นอาหารที่ดีของจุลินทรีย์ในลำไส้ อีกทั้งยังมีสารอาหารอีกมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
กีวีสีทอง ผลไม้เพื่อสุขภาพลำไส้
เชื่อว่ายังมีหลายๆ คนที่ยังไม่รู้จัก ‘กีวีสีทอง’ หรืออาจยังไม่เคยเห็นกีวีชนิดนี้มาก่อน กีวีสีทอง มีลักษณะเป็นผลสีเหลืองทองอร่าม เปลือกจะเรียบเนียนเป็นสีน้ำตาล ไม่มีขน โดยกีวีสีทองเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินที่ดีต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีพรีไบโอติกที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ เนื่องจากใยอาหารที่ได้จากกีวีสีทองจะเป็นอาหารของแบคทีเรีย F. Prau ซึ่งเป็นแบคทีเรียดีที่ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง ช่วยปรับสมดุลลำไส้ และยังช่วยลดการอักเสบอีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของกีวีสีทอง
กีวีสีทอง (Gold Kiwifruit) เป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีวิตามินอยู่หลากหลายชนิด ได้แก่ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค และโพแทสเซียม รวมถึงการต้านอนุมูลอิสระ กีวีสีทองนับว่าเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมากเมื่อเทียบกับผลไม้อื่นๆ โดยการกินกีวี 1 ลูก หรือประมาณ 100 กรัม ร่างกายของเราจะได้รับวิตามินซีมากถึงร้อยละ 155 ของปริมาณที่ร่างกายควรจะได้รับในแต่ละวัน1 ทำให้กีวีสีทอง เป็นอีกหนึ่งผลไม้มากสรรพคุณ ที่นิยมกินเพื่อสุขภาพ
ประโยชน์ และสารอาหารในกีวีสีทอง
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่ากีวีสีทองเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร และวิตามินที่ดีต่อร่างกาย ทั้งช่วยบำรุงลำไส้ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และยังช่วยในการนอนหลับได้ดีขึ้น โดยสามารถสรุปประโยชน์ของกีวีสีทองได้ ดังนี้
1. บำรุงสุขภาพลำไส้
โดยปกติแล้วในลำไส้ของเราจะทำหน้าที่ในการดูดซึมสารอาหาร ย่อยสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ให้กับร่างกาย โดยร่างกายของเราต้องการพรีไบโอติก (Prebiotics) ซึ่งเป็นใยอาหารที่ไม่ถูกย่อยจากกระเพาะอาหาร มักพบพรีไบโอติกในผักผลไม้ต่างๆ เช่น ธัญพืช กีวีสีทอง แอปเปิล กล้วย เป็นต้น โดยพรีไบโอติกจะเป็นอาหารชั้นดีให้กับโพรไบโอติก (Probiotics) หรือแบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพอย่างแบคทีเรีย F. Prau (Faecalibacterium prausnitzii) ซึ่งเป็นแบคทีเรียดีที่ควรมีจำนวนมากที่สุดในลำไส้ โดยแบคทีเรียดีจะช่วยบำรุงลำไส้ และช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้อีกด้วย2
2. เสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกาย
เมื่อลำไส้ดี สุขภาพโดยรวมก็ยิ่งดีมากยิ่งขึ้น กีวีสีทองจึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเป็นผลไม้ที่มีทั้งวิตามินอี ที่ช่วยบำรุงสมอง และดวงตา มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ภายในร่างกาย ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย ยับยั้งการอักเสบอีกด้วย และนอกจากนี้ในกีวีทองยังมีไฟเบอร์ซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่จำเป็นของโพรไบโอติก ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง3
3. เพิ่มประสิทธิภาพการนอนหลับ
หากร่างกายของคนเรามีปริมาณสารเซโรโทนิน (Serotonin) ต่ำกว่าปกติ จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย รู้สึกกระสับกระส่าย และนอนไม่หลับ กีวีสีทองมีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารเซโรโทนิน ซึ่งช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยในเรื่องการนอนหลับ อีกทั้งยังช่วยรู้สึกผ่อนคลายได้อีกด้วย4
4. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
อีกหนึ่งประโยชน์ของกีวีสีทอง คือช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบเลือด เนื่องจากในกีวีสีทองมีวิตามินอี และมีสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดโอกาสเกิดโรคหัวใจ ช่วยลดระดับความดันเลือด และลดปริมาณคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี เพิ่มปริมาณคอเลสเตอรอลดี หรือไขมันดีให้แก่ร่างกาย5
5. เสริมสร้างการสร้างคอลลาเจน
กีวีสีทอง เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ซึ่งวิตามินซีช่วยในเรื่องของการบำรุงผิว เสริมสร้างคอลลาเจน และยังชะลอการสลายตัวของคอลลาเจนได้อีกด้วย ซึ่งคอลลาเจน คือเส้นใยชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่เปรียบเสมือนกาวเชื่อมติดคอยยึดเกาะส่วนต่างๆ ของร่างกาย เป็นองค์ประกอบหลักของเนื้อเยื่อ ผิวหนัง ข้อต่อต่างๆ ดังนั้น เมื่อร่างกายมีคอลลาเจนจำนวนมากขึ้น ผิวหนังจะดูกระจ่างใส ผิวชุ่มชื้น ลดปัญหาผิวหย่อนคล้อย ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
6. ปรับสมดุลน้ำในร่างกาย
ในร่างกายของคนเราประกอบไปด้วยน้ำประมาณร้อยละ 70 และในเลือดมีน้ำเป็นองค์ประกอบถึงร้อยละ 92 เลยทีเดียว ดังนั้น การรักษาสมดุลของน้ำในร่างกายถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยกีวีสีทองมีโพแทสเซียมสูง (Potassium) ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลของน้ำในร่างกายด้วยการขับออกมาทางปัสสาวะ อีกทั้งยังช่วยรักษาสมดุลของกรด-ด่างภายในร่างกายอีกด้วย
7. ช่วยบำรุงครรภ์
ในกีวีสีทองมีกรดโฟลิก (Folic Acid) หรืออีกชื่อเรียกว่าสารโฟเลต (Folate) คือวิตามินที่ช่วยเสริมพัฒนาการของทารกในครรภ์ โดยสารโฟเลตจะเข้าไปช่วยสร้างตัวอ่อนให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยควบคุมการสร้างกรดอะมิโนที่จำเป็นในการแบ่งเซลล์ รวมถึงสร้างเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาวในไขกระดูกของทารกอีกด้วย6
สรุป
กีวีสีทอง เป็นผลไม้ที่สามารถกินได้ทุกเพศทุกวัย แม้กีวีทองกับกีวีเขียวนั้นช่วยเสริมวิตามินซีให้กับร่างกายเหมือนกัน แต่กีวีทองจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินอี และยังมีพรีไบโอติกสูง ช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียดีในลำไส้ ช่วยในเรื่องการนอนหลับ รวมถึงการบำรุงครรภ์ได้อีกด้วย ทั้งนี้สำหรับผู้ที่มีประวัติการแพ้อาหาร แพ้ยา หรือกำลังตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปริมาณที่ควรกินเพื่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพ