ชะเอมเทศ ช่วยต้านเชื้อไวรัส ด้วยส่วนประกอบของไกลเซอร์ไรซิน ปกป้องตับจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ดับกระหาย รักษาแผลในกระเพาะอาหาร พร้อมด้วยประโยชน์อีกมากมาย
ชะเอมเทศ คืออะไร?
ชะเอมเทศ คือสมุนไพรที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียกลางและตะวันตกเฉียงใต้ มีรสชาติหวานคล้ายขนม มักนิยมนำรากชะเอมเทศมาใช้เป็นยาพื้นบ้านตั้งแต่โบราณ เพราะรากชะเอมเทศมีสรรพคุณ ในการขับเสมหะ แก้ไอ แก้น้ำลายเหนียว แก้คอแห้ง ช่วยให้ชุ่มคอ แก้คัน และบำรุงร่างกาย จึงเป็นสมุนไพรที่ใช้แพร่หลายกันโดยทั่วไป
สารอาหารในชะเอมเทศ มีอะไรบ้าง
ชะเอมเทศประกอบไปด้วยสารอาหารมากมายไม่ว่าจะเป็น โซเดียม คาร์โบไฮเดรต และน้ำตาล และยังไม่มีไขมันที่เป็นสาเหตุของโรคอ้วน นอกจากนี้ในชะเอมเทศยังมีสารในกลุ่มไกลเซอร์ไรซิน (Glycyrrhizin) ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยบำรุงตับ ลดโอกาสเกิดมะเร็ง และอื่นๆ อีกมากมาย สารอาหารเหล่านี้เองที่ทำให้ชะเอมเทศกลายเป็นสมุนไพรคู่คนทั่วโลกมาอย่างยาวนาน
10 สรรพคุณดีๆ จากชะเอมเทศ ที่ไม่ควรมองข้าม
ชะเอมเทศเป็นสมุนไพรที่เปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย มาดูสรรพคุณ 10 ข้อของชะเอมเทศ ที่จะทำให้ทุกคนอยากหันกลับมาบริโภคชะเอมเทศ ดังนี้
1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
สารในกลุ่มไกลเซอร์ไรซิน (Glycyrrhizin) ในรากชะเอมเทศ มีส่วนช่วยในการต้านไวรัส ซึ่งจากการใช้รากชะเอมเทศในการรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ พบว่าปอดที่ติดเชื้อดีขึ้นถึง 90%1
TRIPLE PROTECTOR
สมุนไพรต้านไวรัส เพิ่มภูมิคุ้มกัน
2. ช่วยบำรุงผิว
รากชะเอมเทศมีสรรพคุณในการต้านการอักเสบ สามารถใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนัง ไม่ว่าจะเป็นสิว และผื่นภูมิแพ้ผิวหนังชนิดเอคซิม่า (Eczema) โดยทดลองใช้เจลทาผิวหนังกับผู้ที่มีอาการดังกล่าว ช่วยทำให้อาการดีขึ้น2
3. มีส่วนช่วยในระบบย่อยอาหาร
สารในกลุ่มไกลเซอร์ไรซินมีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการอาหารไม่ย่อย จากการศึกษาทดลองโดยให้ผู้ป่วยที่มีอาการอาหารไม่ย่อยหรืออาการกรดไหลย้อนและแสบร้อนกลางอก ได้รับประทานสารสกัดจากรากชะเอมเทศในระยะเวลา 1 -2 เดือน ร่วมกับการรักษาทั่วไป ผลพบว่าผู้ป่วยมีอาการที่ดีขึ้น ทั้ง 3 กลุ่มอาการ2
4. ช่วยให้แผลในกระเพาะอาหารหายไวขึ้น
สารสกัดจากรากชะเอมเทศมีส่วนช่วยในการรักษาแผลในกระเพาะอาหาร จากการศึกษา พบว่า การรับประทานสารสกัดจากชะเอมเทศ 200 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ช่วยป้องกันบรรเทาอาการแผลในกระเพาะอาหารได้ดีกว่าการใช้ยารักษาแผลในกระเพาะอาหารอย่าง โอเมพลาโซล (Omeprazole)2
5. ช่วยบำรุงตับ
ภาวะไขมันสะสมในตับ เป็นภาวะที่เป็นอันตราย และส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งตับและความเสียหายอื่นๆ ในร่างกาย ทั้งนี้ปัจจุบันมีข้อจำกัดในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับตับ ซึ่งได้มีแนวคิดเกี่ยวกับการนำเอาสารในกลุ่มไกลเซอร์ไรซินที่ได้จากรากชะเอมเทศมาใช้ในการรักษาภาวะเกี่ยวกับไขมันสะสมในตับ โดยมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาต่อไป1
6. ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง
การศึกษาวิจัยในประเด็นเรื่องประโยชน์ของรากชะเอมเทศที่ช่วยในการรักษามะเร็ง ผลการศึกษาพบว่าสารในกลุ่มไกลเซอร์ไรซินมีส่วนในการทำให้เกิดกระบวนการตายของเซลล์มะเร็งชนิดดังกล่าวได้ โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะอาหาร และลูคีเมีย4
TRIPLE PROTECTOR
สมุนไพรต้านไวรัส เพิ่มภูมิคุ้มกัน
7. บำรุงสุขภาพฟัน
สารสกัดจากชะเอมเทศอาจจะช่วยกำจัดแบคทีเรียในช่องปากที่เป็นสาเหตุของฟันผุได้ นอกจากนั้น สารสกัดจากรากชะเอมเทศยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย “Streptococcus mutans” ที่อยู่ภายในช่องปาก และช่วยลดกรดที่อยู่บริเวณฟัน จึงช่วยป้องกันการเกิดฟันผุได้3
8. มีส่วนช่วยบำรุงสมอง
จากการวิจัยที่เกี่ยวข้องระบุว่าสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่เป็นสารประกอบหลักอย่าง ไกลเซอร์ไรซิน และ กลาบริดิน (Glabriddin) ในรากชะเอมเทศ มีคุณสมบัติช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ และต้านอาการอักเสบที่ส่งผลกระทบต่อสมองได้6
9. ช่วยลดไขมันและระดับน้ำตาลในเลือด
สารในกลุ่มไกลเซอร์ไรซินในรากชะเอมเทศมีส่วนช่วยลดระดับค่าไขมันและน้ำตาลในเลือด จากการศึกษาวิจัย ให้กลุ่มตัวอย่างรับประทานสารสกัดจากรากชะเอมเทศปริมาณ 3.5 กรัม ต่อวัน โดยที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิต เป็นระยะเวลา 2 เดือน พบว่า เปอร์เซ็นต์น้ำในร่างกายเพิ่มขึ้น ในขณะที่มวลไขมันลดลง จึงกล่าวได้ว่าชะเอมเทศจะมีส่วนช่วยลดระดับไขมันและน้ำตาลของร่างกาย4
10. ช่วยดับกระหาย
สารในกลุ่มไกลเซอร์ไรซินในรากชะเอมเทศ มีสรรพคุณช่วยดับกระหาย นับตั้งแต่โบราณมักนิยมผสมรากชะเอมเทศดื่มกับชา หรือรับประทานรากโดยตรง จะช่วยลดอาการกระหายได้อย่างดี อีกทั้งยังรากชะเอมเทศยังมีส่วนช่วยเพิ่มคอร์ติซอล ที่จะช่วยในการเพิ่มพลังงานในร่างกายด้วย5
บริโภคชะเอมเทศเสริมภูมิคุ้มกัน ทำได้อย่างไร
อย่างที่รู้กันไปแล้วว่าชะเอมเทศมีสรรพคุณช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกัน เพราะมีสารสำคัญที่ช่วยในการต้านอักเสบและต้านไวรัส การบริโภคชะเอมเทศ จะนิยมบริโภคในส่วนของราก โดยมีทั้งรูปแบบของ ชา ยาเคี้ยว สารสกัดแบบของเหลว แบบผงแป้ง หรือนำรากชะเอมเทศไปประกอบอาหารโดยตรง นอกจากนั้นในปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีส่วนผสมของชะเอมเทศ ที่มีคุณสมบัติในเรื่องของการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วย
โดยชะเอมเทศมีส่วนในการยับยั้งการอักเสบเฉียบพลันและอาการเรื้อรังต่างๆ เสริมการทำงานของภูมิคุ้มกัน กำจัดอนุมูลอิสระและช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์และดีเอ็นเออีกด้วย ซึ่งปริมาณการบริโภคที่ WHO แนะนำ คือ ไม่ควรเกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน2
TRIPLE PROTECTOR
สมุนไพรต้านไวรัส เพิ่มภูมิคุ้มกัน
ข้อควรระวังเมื่อบริโภคชะเอมเทศ
การบริโภคชะเอมเทศมากเกินไปจะส่งผลให้เกิดการสะสมของสารในกลุ่มไกลเซอร์ไรซินในร่างกาย ก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนความเครียด นอกจากนั้นยังก่อให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูง ภาวะโพแทสเซียมต่ำ กล้ามเนื้ออ่อนแรง และหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วย สำหรับสตรีมีครรภ์และผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานชะเอมเทศ เนื่องจากยาบางชนิดไม่สามารถรับประทานร่วมกับชะเอมเทศ จะทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยาได้ ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายมากขึ้น
นอกจากนั้น ควรสังเกตอาการแพ้ที่อาจเกิดจากการรับประทานชะเอมเทศด้วย เช่น ลมพิษ เจ็บคอ หายใจมีเสียงหวีด ภาวะกลืนลำบาก และอาการเวียนศีรษะ เป็นต้น หากพบว่ามีอาการแพ้เหล่านี้ควรหยุดรับประทานชะเอมเทศทันที2
สรุป
ชะเอมเทศ คือ สมุนไพรที่มีต้นกำเนิดในแถบเอเชียกลางและตะวันตกเฉียงใต้ มีสรรพคุณทางยาที่นิยมใช้มาตั้งแต่โบราณ ในรากชะเอมเทศมีสารในกลุ่มไกลเซอร์ไรซินที่เป็นสารสำคัญในการต้านอักเสบ ต้านไวรัสและแบคทีเรียต่างๆ มีประโยชน์ในด้านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยบำรุงผิว ช่วยระบบย่อยอาหาร ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็ง และบำรุงตับ เป็นต้น ข้อระวังในการบริโภคชะเอมเทศ คือ การไม่บริโภคในปริมาณมากเกินไป เพราะจะส่งผลต่ออาหารผิดปกติอื่นๆ ของร่างกาย เช่น ภาวะความดันโลหิตสูง ภาวะโพแทสเซียมต่ำ และกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นต้น
TRIPLE PROTECTOR
สมุนไพรต้านไวรัส เพิ่มภูมิคุ้มกัน