อาหารบำรุงผม ดูแลผิวและเล็บ สวยเป๊ะแบบ 3 in 1

การกินอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บเป็นวิธีที่ง่ายและเห็นผลในระยะยาว เพราะเซลล์ของผม ผิว และเล็บมีการเสื่อมสภาพลงทุกวัน จึงต้องหาวิธีดูแลให้สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

ทำไมต้องบำรุงผม ผิว และเล็บ?

สภาพผมแห้ง ผิวไม่นุ่มเนียน และเล็บเปราะฉีกขาดง่าย อาจเกิดจากการขาดสารอาหารหรือวิตามินบางชนิด ยิ่งผม ผิว และเล็บเป็นอวัยวะที่ประกอบด้วยเซลล์เนื้อเยื่อที่มีการเสื่อมสภาพตลอดเวลา และสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงจากภายนอกได้ง่าย ยิ่งเป็นอวัยวะที่ควรให้ความสำคัญในการบำรุง และดูแลเป็นอย่างมาก เพราะว่าผม ผิว และเล็บที่ดูมีสุขภาพดี ไม่ว่าจะเป็นผมที่มีน้ำหนัก ผิวที่มีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน หรือมีความเหี่ยวย่น และเล็บที่มีความแข็งแรง ไม่เปราะบาง ล้วนเป็นสิ่งที่สามารถส่งผลให้ภาพลักษณ์โดยรวมดูสะอาดสะอ้าน มีสุขภาพดี และมีบุคลิกภาพที่ดี

การกินอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บที่มีสารอาหารบำรุง และช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ เช่น ผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ที่มีส่วนประกอบของสารอาหารที่ช่วยบำรุงผม ผิว และเล็บ จึงเปรียบเสมือนการป้องกัน ย่อมดีกว่าการปล่อยปละละเลยจนผม ผิว และเล็บได้รับความเสียหายจนยากที่จะฟื้นฟูในภายหลัง

ผมบาง ขาดง่าย เพราะอะไร?

เส้นผมบนศีรษะของมนุษย์มีประมาณ 100,000 เส้น และจะมีความยาวเพิ่มขึ้นประมาณวันละ 0.35 มิลลิเมตร หรือประมาณปีละ 12-15 เซนติเมตร และจะหลุดร่วงประมาณวันละ 50-100 เส้น โดยในส่วนของรากผมจะมีอายุประมาณ 2-5 ปีเท่านั้น และเมื่อรากผมมีการเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ก็จะหยุดการเจริญเติบโต ตามมาด้วยการหลุดร่วง และมีรากผมใหม่เกิดขึ้นมาแทนที่

อย่างไรก็ตาม วงจรของชีวิตเส้นผมของแต่ละคนจะมีไม่เท่ากัน เมื่ออายุมากขึ้นวงจรนี้จะค่อยๆ เสื่อมไป ผมจึงเกิดการหลุดร่วงบ่อยขึ้น และเกิดเส้นใหม่ช้าลง ทำให้สังเกตุเห็นได้ชัดว่าผมบางลง หรืออาจเกิดการเปราะ ขาดง่าย หากเส้นผมได้รับการดูแลไม่เหมาะสม

นอกจากอายุแล้ว การที่ผมหลุดร่วง หรือขาดง่าย อาจเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาการเจ็บป่วย ผลข้างเคียงจากการใช้ยา หรือการขาดสารอาหาร เป็นต้น¹

ริ้วรอยเหี่ยวย่น เกิดจากอะไร?

เซลล์ผิวของมนุษย์มีการสร้าง ผลัด และทำลายเซลล์ผิวประมาณ 1 พันล้านเซลล์เป็นประจำทุกวัน โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวเกิดการเสื่อมสภาพ คือ อายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้โครงสร้าง และหน้าที่ต่างๆ ของผิวมีการเปลี่ยนแปลง หรือที่เรียกว่าการเสื่อมสภาพตามวัย²

นอกจากนี้ สารอนุมูลอิสระที่เป็นพิษต่อเซลล์ผิว ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพ และเร่งทำลายตัวเองเร็วมากขึ้น อีกทั้งการเผชิญมลภาวะ แสงแดด สูบบุหรี่ หรือนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ ทำให้เกิดปัญหาริ้วรอยที่แก้ไขได้ยาก² ดังนั้น การกินอาหารบำรุงผิว จึงเป็นอีกวิธีในการปกป้องผิวก่อนเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น และทำให้ผิวมีสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์จากภายใน

ทำไมเล็บบางและเปราะ?

การใช้สารเคมีรุนแรงกับเล็บ การใช้เล็บแกะของแข็งๆ ไปจนถึงการขาดสารอาหารบางชนิด ส่งผลให้เล็บมีความเปราะบาง ผิวเล็บไม่เงางาม เป็นคลื่น หรือฉีกขาดได้ง่าย เล็บที่ไม่แข็งแรง อาจตรวจสอบได้จากสีของเล็บ เล็บที่มีสุขภาพดีควรมีสีขาวอมชมพู ผิวเล็บมีความเรียบ และเงา เพราะว่าเล็บเป็นสารเคราตินเหมือนกับเส้นผม เมื่อเจริญเติบโตจนถึงจุดหนึ่ง ก็จะเสื่อมสภาพไป กลายเป็นส่วนขาวที่ยื่นออกมาตรงปลายเล็บ

นอกจากนี้ ลักษณะของเล็บที่เป็นเส้น หรือเป็นคลื่นยังสามารถบ่งบอกได้ถึงสุขภาพร่างกายได้อีกด้วย เพราะว่าสารพิษ ยา หรือเชื้อโรคต่างๆ ที่มีการสะสมในร่างกาย มักสะสมที่เล็บด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคโลหิตจาง ที่จะทำให้เล็บมีสีซีด และโค้งเป็นรูปช้อน โรคหัวใจที่เล็บจะมีสีเขียว เพราะออกซิเจนในเม็ดเลือดไม่เพียงพอ หรือคนสูบบุหรี่ที่จะมีเล็บสีเหลืองอย่างเห็นได้ชัด การดูแลเล็บเป็นประจำด้วยการกินอาหารบำรุงเล็บก็จะช่วยให้เล็บมีความแข็งแรง และสุขภาพดีได้ในระยะยาว

7 อาหารบำรุงผม ผิว และเล็บให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน

สำหรับการกินอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บให้มีสุขภาพดีนั้นจะต้องเลือกกินอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ที่สามารถช่วยบำรุงผม ผิว และเล็บได้ ดังนี้

1. เนื้อวัว และเนื้อหมู

เนื้อวัวและเนื้อหมูเป็นอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บที่มีสารอาหารบำรุงผิว ผม และเล็บอย่าง “ไฮโดรไลซ์” ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นโครงสร้างหลักของเนื้อเยื่อ มีหน้าที่ในการยึดเหนี่ยวเซลล์ และเนื้อเยื่อเข้าด้วยกัน และช่วยสร้างเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง กระดูก กระดูกอ่อน และฟัน ส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น มีความชุ่มชื้น และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ผิวมีสุขภาพดี ผมมีความแข็งแรง และเล็บไม่เปราะบาง หรือฉีกขาดง่าย

2. องุ่น

องุ่น หรือสารสกัดจาดเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract) เป็นอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บที่มีสารอาหารบำรุงผิว ผม และเล็บที่สำคัญอย่าง “สารต้านอนุมูลอิสระ” ที่มีประสิทธิภาพสูง มีหน้าที่ในการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเส้นเลือดฝอย เพื่อให้นำพาสารต่างๆ ในเลือดไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผิวมีความยืดหยุ่น และชุ่มชื้นมากขึ้น เส้นผมมีความแข็งแรง หลุดร่วงน้อยลง และเล็บมีสุขภาพดี ไม่เปราะปาง ไม่ฉีกขาดง่าย อีกทั้งยังทำให้ผนังหลอดเลือดมีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

3. ข้าวโอ๊ต

ข้าวโอ๊ต เป็นอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บที่มีสารอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บอย่าง “ไกลซีน” เป็นกรดอะมิโนหลักในคอลลาเจน และเป็นโครงสร้างหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน จึงมีส่วนช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น มีความยืดหยุ่น ไม่แห้งกร้าน ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย เส้นผมมีน้ำหนัก ดูเงางาม และช่วยให้เล็บแข็งแรง เงางาม และไม่เปราะหักง่าย แถมยังสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพในการนอนหลับให้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

4. อัลมอนด์

อัลมอนด์ เป็นอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บที่มีสารอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บอย่าง “แมกนีเซียม ไทรซิลิเคต” เป็นสารที่ช่วยเพิ่มสารซิลิกาที่เป็นส่วนประกอบของเล็บ โดยสารซิลิกาจะทำงานร่วมกับคอลลาเจน ช่วยกระตุ้นการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีวิตามินที่สำคัญต่อการบำรุงผมให้มีความเงางาม แข็งแรง ไม่หลุดร่วงง่าย และมีน้ำหนัก บำรุงเล็บให้มีความแข็งแรง เงางาม ไม่เป็นรอยเส้น หรือคลื่นบนผิวเล็บ ไม่เปราะหักง่าย และช่วยบำรุงผิวให้ผิวมีความชุ่มชื้น แข็งแรง ไม่ไวต่อแสงแดด และช่วยลดโอกาสเกิดโรคทางผิวหนังได้มากขึ้น³

5. ไข่

ไข่ เป็นอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บที่มีสารอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บอย่างโปรตีน ไขมัน ฟอสฟอรัส แคลเซียมธาตุเหล็ก เลซิทิน และวิตามินต่างๆ4 รวมถึง “แอล-ซิสทีน” ที่เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของโครงสร้างโปรตีนต่างๆ ภายในร่างกาย เช่น ผิว ผม และเล็บ รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของโปรตีนเคราติน ส่งผลให้ผิวมีสุขภาพดี ผมมีความเงางาม ไม่แตกปลาย ไม่หลุดร่วงง่าย และมีน้ำหนัก ช่วยให้เล็บเงาสวย และไม่เปราะหักง่าย

6. เมล็ดธัญพืช

เมล็ดธัญพืช เป็นอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บที่มีสารอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บอย่าง “ไบโอติน” เป็นหนึ่งในวิตามินบีที่นอกจากช่วยให้ระบบเผาผลาญร่างกายดีแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างกระบวนการสร้างเคราติน และสร้างการเจริญเติบโตของเซลล์ต่างๆ อย่างผิว ผม และเล็บ5 เพราะไบโอตินเป็นสารสำคัญที่พบได้ในผิว ผม และเล็บ และหากร่างกายขาดไบโอตินก็จะส่งผลให้ผมหลุดร่วงง่าย ผมหงอกก่อนวัยอันควร ผิวแห้งง่าย ผิวเกิดการระคายเคือง และอักเสบได้ง่าย และเล็บก็จะมีความเปราะบาง หักง่าย และเป็นเส้นคลื่นได้

7. อะเซโรลา เชอร์รี

อะเซโรลา เชอร์รี เป็นอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บชั้นดี เพราะอะเซโรลา เชอร์รีเข้มข้นจะมีสารอาหารบำรุงผม ผิว และเล็บอย่าง “วิตามินซี” ที่ช่วยสร้างเนื้อเยื่อ คอลลาเจน และอีลาสตินที่อยู่ในชั้นผิวหนังแท้ ช่วยให้ผิวสมานตัวเร็วขึ้น และเป็นสารอนุมูลต้านอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกาย อีกทั้งยังมีไฟโตนิวเทรียนท์อย่างฟลาโวนอยด์ที่ช่วยเสริมภูมิต้านทาน และช่วยป้องกันการทำลายจากสารอนุมูลอิสระ ซึ่งจะส่งผลให้ผิว ผม และเล็บมีสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

สรุป

การดูแลผม ผิว และเล็บ โดยไม่ปล่อยละเลยให้เสื่อมสภาพ จะช่วยชะลอให้เนื้อเยื่อ และเซลล์ต่างๆ รวมถึงผม ผิว และเล็บมีสุขภาพที่ดีได้ในระยะยาว เพราะหากปล่อยให้ผิว ผม และเล็บเกิดการเสื่อมสภาพจนได้รับความเสียหาย อาจทำให้ยากต่อการดูแล และฟื้นฟูให้กลับมามีสุขภาพดีเหมือนเดิม โดยการกินอาหารบำรุงผม อาหารบำรุงผม และอาหารบำรุงเล็บ ถือเป็นวิธีที่สามารถเริ่มต้นทำได้ง่ายๆ เพียงเลือกกินอาหารที่มีสารอาหารบำรุงผม สารอาหารบำรุงผิว และสารอาหารบำรุงเล็บ เพื่อเป็นการบำรุงจากภายในสู่ภายนอก ช่วยให้เนื้อเยื่อ และเซลล์ต่างๆ ได้รับการบำรุงอย่างต่อเนื่อง และช่วยให้เห็นผลได้อย่างยั่งยืน