ร่างกายของคนเรา นอกจากต้องการสารอาหารหลัก หรือแมคโครนิวเทรียนท์ จำพวกโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันแล้ว ยังต้องการสารอาหารรอง หรือไมโครนิวเทรียนท์ จำพวกวิตามิน เกลือแร่ รวมทั้งสารอาหารจากผักผลไม้ หรือที่เรียกว่าไฟโตนิวเทรียนท์อีกด้วย เพราะสารอาหารต่างๆ เหล่านี้ช่วยสนับสนุนการทำหน้าที่ซึ่งกันและกัน โดยทั่วไปในมื้ออาหารปกติมักประกอบด้วยสารอาหารกลุ่มแมคโครนิวเทรียนท์เป็นหลักอยู่แล้ว สิ่งที่มักขาดหายไปก็คือผักและผลไม้ ดังนั้น เราควรเพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ในปริมาณที่เพียงพอ โชคดีที่ชีวิตมีทางเลือก...การดื่มเครื่องดื่มที่ให้วิตามิน เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์จากธรรมชาติเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเริ่มต้นสุขภาพดี สำหรับชีวิตที่รีบเร่งของคนในยุคปัจจุบัน

EASY VITAMIN...เริ่มต้นสุขภาพดีง่ายๆ ด้วยวิตามิน เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์

วิตามินที่ละลายในน้ำ เช่น วิตามินบีและวิตามินซี เป็นวิตามินที่ไม่สะสมในร่างกาย จำเป็นต้องบริโภคอาหารโดยเฉพาะผักและผลไม้เป็นประจำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะวิตามินบีรวมที่ช่วยเสริมการทำงานของระบบประสาทและสมอง และช่วยให้เม็ดเลือดแดงขนส่งออกซิเจนไปสู่อวัยวะต่างๆ ร่างกายจึงรู้สึกสดชื่นขึ้น วิตามินซีมีบทบาทเป็นสารต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกาย ช่วยต้านการอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ การออกกำลังกายมีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระขึ้นจากเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดนิวโทรฟิล ซึ่งอาจทำลายเนื้อเยื่อต่างๆ ให้ได้รับความเสียหาย มีการวิจัยที่ทดลองให้นักกีฬาสมัครเล่นวิ่งฮาล์ฟ-มาราธอนระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร ดื่มเครื่องดื่มวิตามินซีร่วมกับวิตามินอีตลอดระยะเวลาการฝึกฝน ผลพบว่า สามารถป้องกันการเกิดออกซิเดชันของนิวโทรฟิลซึ่งช่วยลดการสร้างอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากการฝึกวิ่งได้

EVERYDAY HEALTHY...พื้นฐานสุขภาพดี มีได้ทุกวัน

ร่างกายของคนเราต้องการทั้งวิตามิน เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์ ทำหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการทำหน้าที่ของโปรตีนทำงาน (Functional Proteins) ในทางกลับกัน โปรตีนทำงานหลายชนิดทั้งเอนไซม์ ฮอร์โมน และสารโปรตีนอื่นๆ ก็ทำหน้าที่ส่งเสริมการทำงานของวิตามิน เกลือแร่ และไฟโตนิวเทรียนท์ พร้อมกันไปด้วย ดังนั้น ร่างกายจึงขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งไม่ได้ เพื่อทำหน้าที่ผสานพลังร่วมกันเป็นทีมเวิร์คอย่างมีประสิทธิภาพ

ENJOY GOOD SHAPE...รูปร่างดี ดูดีทุกวัน

จากการสำรวจประชากรทั่วไปอายุ 15-79 ปี ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ – กรกฎาคม 2558 พบว่า คนไทยมีน้ำหนักเกิน 23% และมีภาวะอ้วน 7.5% โดยอาจมีสาเหตุมาจากการใช้ชีวิตที่เร่งรีบและการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลสูง อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้ การได้รับสารอาหารวิตามินและไฟโตนิวเทรียนท์ก็มีส่วนช่วยดูแลรูปร่างให้ดูดีได้ทุกวัน

วิตามินกับการส่งเสริมการทำงานของเอนไซม์และรักษาสมดุลการเผาผลาญอาหาร

  • บี 1 หรือไธอะมีน (Thiamine) ช่วยเร่งเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต และลดอาการเมื่อยล้าหลังออกกำลังกาย
  • บี 2 หรือไรโบฟลาวิน (Riboflavin) เป็นโคเอนไซม์ในระบบการเผาผลาญสารอาหารในร่างกาย
  • บี 3 หรือไนอะซิน (Niacin) เป็นโคเอนไซม์ในปฏิกิริยาการเผาผลาญสารอาหารให้เป็นพลังงาน งานวิจัยพบว่า การให้วิตามินบี3 ช่วยเร่งปฏิกิริยาและรักษาสมดุลการเผาผลาญอาหารประเภทไขมัน
  • บี 5 หรือกรดแพนโทธินิค (Panthothenic Acid) ช่วยในการเผาผลาญสารอาหารให้เป็นพลังงาน

ไฟโตนิวเทรียนท์กับการส่งเสริมกระบวนการเผาผลาญอาหาร

  • กรดไฮดรอกซีซินนามิก (Hydroxycinnamic acids) พบในผักและผลไม้ เช่น ซีบัคธอร์น สับปะรด ทับทิม และผลไม้ตระกูลส้ม ช่วยชะลอการดูดซึมกลูโคสเข้าสู่ร่างกาย ช่วยลดการขยายตัวและการสะสมไขมันในเซลล์ไขมันและเร่งการนำกลูโคสเข้าสู่เซลล์เพื่อการเผาผลาญให้เป็นพลังงานแก่ร่างกาย
  • ฟลาวาโนน (Flavanone) พบในผักผลไม้ในตระกูลส้มและเลมอน เกี่ยวข้องกับการรักษาสมดุลการเผาผลาญสารอาหาร
  • แอนโธไซยานิน (Anthocyanin) พบในผักและผลไม้ที่มีสีแดงหรือสีชมพู เช่น อะเซโรลา เชอร์รี ช่วยให้กระบวนการเผาผลาญจากอาหารไขมันทำงานดีขึ้น

หวานพอดีที่ 4 กรัม

หนึ่งในสาเหตุที่คนมักได้รับปริมาณน้ำตาลเกิน ก็เนื่องมาจากความสะดวกในการเทน้ำตาลจากซองบรรจุพร้อมใช้ลงในเครื่องดื่มจนหมดซอง ซึ่งซองมีหลายขนาดตั้งแต่ 3 - 10 กรัม โดยขนาด 8 กรัม เป็นขนาดที่นิยมใช้มากที่สุด หากบริโภคน้ำตาลมากเกินไป อาจส่งผลร้ายทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้น ควรเปลี่ยนมาใช้น้ำตาลซองขนาดไม่เกิน 4 กรัม (4 กรัม = 1 ช้อนชา) เพื่อลดปริมาณการบริโภคน้ำตาลในแต่ละวัน

shop now