ช่องคลอดมีกลิ่น อันตรายกว่าที่คิด! เพราะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่าจุลินทรีย์ในจุดซ่อนเร้นไม่สมดุล ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคร้ายต่างๆ ได้
ช่องคลอดมีกลิ่น แบบไหนที่ผิดปกติ
ปกติแล้ว ช่องคลอดมีกลิ่นต่างๆ จะบ่งบอกถึงสุขภาพในช่วงนั้น เช่น เมื่อค่า pH ในช่องคลอดเปลี่ยนเมื่อตั้งครรภ์ หรือมีการใช้ยาคุมกำเนิด ทำให้มีกลิ่นคล้ายยีสต์ขนมปัง7 หรือในช่วงของการมีประจำเดือนที่ทำให้ช่องคลอดมีกลิ่นคล้ายเหรียญ เพราะเลือดนั้นมีส่วนประกอบจากธาตุเหล็ก หรือเป็นกลิ่นที่เหมือนกับกลิ่นตัวในช่วงที่เครียด หรือกลิ่นที่เกิดจากการออกกำลังกาย โดยอาการที่ช่องคลอดมีกลิ่นแต่ไม่คัน กลิ่นเหล่านี้ไม่ถือเป็นอาการของโรค ไม่เป็นอันตราย ไม่จำเป็นต้องกังวลใจ
แต่หากน้องสาวมีกลิ่นคาวที่คล้ายกับกลิ่นคาวปลา เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายกำลังเผชิญกับโรคร้ายได้4 และจะต้องรีบเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองโรค และปรึกษาแนวทางการรักษาโรคเหล่านั้น เช่น จุดซ่อนเร้นมีกลิ่นที่บ่งบอกว่าเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด หรือการเป็นมะเร็งในช่องคลอด เป็นต้น3
ช่องคลอดมีกลิ่น เกิดจากอะไร
สาเหตุที่ช่องคลอดมีกลิ่นนั้นมีหลากหลาย เพื่อที่จะกำจัดกลิ่น และลดโอกาสของการเกิดโรค จึงควรทำความเข้าใจกับสาเหตุของการที่น้องสาวมีกลิ่นคาว และแก้ไขที่ต้นเหตุ รวมไปถึงดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เกิดปัจจัยเหล่านี้
ติดเชื้อแบคทีเรีย
การติดเชื้อแบคทีเรีย เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่นคาวได้ เนื่องจากเมื่อช่องคลอดติดเชื้อแบคทีเรียจะทำให้เกิดการระคายเคือง และมีการอักเสบ จนน้องสาวมีกลิ่นคาว1 โดยอาจเป็นต้นตอของโรคเริม หรือหนองในได้
ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
สาเหตุที่ช่องคลอดมีกลิ่น อาจเกิดจากการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ สังเกตว่า หากน้องสาวมีกลิ่นคาวโดยเฉพาะในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ หรือรู้สึกระคายเคืองผิดปกติ อาจเกิดมาจากการติดเชื้อจนทำให้มีกลิ่นในช่องคลอดได้2
สวนล้างช่องคลอด
การสวนล้างช่องคลอด สาเหตุที่หลายคนมองข้ามจนทำให้น้องสาวมีกลิ่นคาว แม้หลายคนจะคิดว่าการทำความสะอาดจะช่วยลดอาการที่จุดซ่อนเร้นมีกลิ่นได้ แต่การทำความสะอาดที่ไม่ถูกวิธี จะยิ่งทำให้เป็นสาเหตุของช่องคลอดมีกลิ่น9 การสวนล้างช่องคลอดจะทำให้ภายในช่องคลอดที่ควรมีสถานะเป็นกรดอ่อนๆ นั้นกลายเป็นด่าง รวมถึงทำลายสมดุลจุลินทรีย์ดีในจุดซ่อนเร้น จนเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรีย และเป็นต้นตอของกลิ่นคาวในช่องคลอด
กินอาหารกลิ่นแรง รสจัด
การกินอาหารที่มีกลิ่นแรง และรสจัด ก็เป็นอีกสาเหตุของการมีกลิ่นในช่องคลอด9 หลายคนอาจไม่ทันสังเกตว่ากลิ่นตัวของเราสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามอาหารที่กินได้ การกินอาหารที่มีรสจัด หรือมีกลิ่น จึงส่งผลต่อเหงื่อ และของเสียในร่างกาย รวมไปถึงจุดซ่อนเร้นมีกลิ่นด้วย
ใส่กางเกงรัดเกินไป
หากใส่กางเกงที่รัดเกินไป อาจทำให้น้องสาวมีกลิ่นคาว เพราะเกิดจากการเสียดสี และความอับชื้นของเครื่องแต่งกาย เมื่อบริเวณจุดซ่อนเร้นถูกเสียดสีจนเกิดการระคายเคือง หรือเมื่ออากาศไม่ถ่ายเทจนทำให้บริเวณจุดซ่อนเร้นเกิดความอับชื้น จึงเกิดเป็นการเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย หรือเกิดการหมักหมมของเหงื่อ และสิ่งสกปรก แล้วแบคทีเรีย และสิ่งสกปรกเหล่านี้เอง คือต้นตอของการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์บริเวณจุดซ่อนเร้น5
ฮอร์โมนไม่สมดุล
ฮอร์โมนที่ไม่สมดุลอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ช่วงเป็นประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์ หรือมีการกินยาคุมกำเนิด ซึ่งเมื่อฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง จะส่งผลต่อค่า pH ในช่องคลอด และเป็นสาเหตุของเชื้อแบคทีเรีย5 ซึ่งหากเกิดจากอาการดังกล่าว แม้จะไม่เป็นอันตราย แต่ก็ทำให้จุดซ่อนเร้นมีกลิ่นจนเสียความมั่นใจได้
มะเร็งปากมดลูก
มะเร็งปากมดลูกหรือการติดเชื้อ HPV จะส่งผลให้ร่างกายขับของเสียออกมา ที่เห็นได้ชัดอย่างการมีตกขาวปริมาณมากผิดปกติ ตกขาวเปลี่ยนเป็นสีเขียวและมีกลิ่นเหม็น9 จนทำให้น้องสาวมีกลิ่นคาวคล้ายกลิ่นคาวปลา ซึ่งการเกิดมะเร็งปากมดลูกนั้นเป็นโรคที่อันตราย หากภายในช่องคลอดส่งกลิ่นที่ไม่ปกติและมีตกขาวจึงควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจคัดกรองและรักษาให้ทันท่วงที
แพ้สารเคมี
การแพ้สารเคมี อีกหนึ่งสาเหตุที่อาจทำร้ายจุดซ่อนเร้นโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากความสมดุลของจุดซ่อนเร้นเป็นส่วนที่ละเอียดอ่อน และผิวบริเวณจุดซ่อนเร้นนั้นระคายเคืองได้ง่าย การใช้สารเคมีบางชนิดจึงอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ ทั้งน้ำยาทำความสะอาดร่างกาย น้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือน้ำหอมที่ใช้ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อจุดซ่อนเร้น และทำให้จุดซ่อนเร้นมีกลิ่น9 จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่อ่อนโยนต่อร่างกาย
วิธีแก้ปัญหาช่องคลอดมีกลิ่น
เพื่อป้องกันไม่ให้น้องสาวมีกลิ่นคาวจนกระทบต่อความมั่นใจ หรือกลายเป็นโรคได้ จึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการหมักหมมของสิ่งสกปรก ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นอย่างถูกวิธี และดูแลเรื่องการกินอาหารอย่างถี่ถ้วน
- ระวังเรื่องของอาหารการกิน หลีกเลี่ยงของหมักดอง และอาหารรสจัดที่มีกลิ่นแรง เช่น เลี่ยงการกินกระเทียม หรือเครื่องเทศอื่นๆ ในปริมาณมาก เลี่ยงอาหารที่มีความเป็นกรดสูง เช่น แอลกอฮอล์ หรืออาหารรสหวานจัด เนื่องจากน้ำตาลเป็นส่วนหนึ่งที่ทำลายแบคทีเรียดีในระบบย่อยอาหารจนเกิดเป็นกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
- กินโพรไบโอติก หากช่องคลอดมีกลิ่น ควรกินอาหาร หรืออาหารเสริมที่อุดมไปด้วยโพรไบโอติก และแลคโตบาซิลัสที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดโอกาสการติดเชื้อในช่องคลอด เพิ่มความสมดุลให้กับภายในช่องคลอด6 จึงช่วยลดกลิ่นจากตกขาว และลดกลิ่นบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ดี
- หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น เลือกเสื้อผ้าที่พอดี หรือมีพื้นที่ให้ร่างกายได้ถ่ายเทอากาศ และความร้อน ไม่อับชื้น หรือหมักหมมเหงื่อ และไม่เสียดสีจุดซ่อนเร้น แนะนำการสวมกางเกงผ้าฝ้าย จะช่วยในเรื่องของการระบายอากาศ ช่วยทำให้ไม่อับชื้น
- รักษาความสะอาดเมื่อมีเพศสัมพันธ์ สวมถุงยางอนามัย8 และหมั่นสังเกต หากเกิดอาการผิดปกติเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เช่น อาการเจ็บแสบ ระคายเคือง รวมไปถึงสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกายภายหลังการมีเพศสัมพันธ์ เช่น ช่องคลอดมีกลิ่นแต่ไม่คัน หรืออาการคันช่องคลอด ไม่มีตกขาว ไม่มีกลิ่น หากมีอาการผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจคัดกรองโรคที่อาจเป็นไปได้ เช่น โรคมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น
การดูแลตัวเองไม่ให้ช่องคลอดมีกลิ่น
สำหรับใครที่กังวลเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ของช่องคลอด มองหาวิธีดูแลตัวเองอย่างไรให้ไร้กังวล ห่างไกลจากปัญหาน้องสาวมีกลิ่น บทความนี้ได้รวบรวมเอาวิธีการดูแลตัวเองไม่ให้ช่องคลอดมีกลิ่นมาให้ ดังนี้
- ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นอย่างถูกวิธี ไม่สวนล้างช่องคลอด เพราะจะทำให้ช่องคลอดเสียสมดุลธรรมชาติ และกลายเป็นด่าง ล้างบริเวณจุดซ่อนเร้นขณะอาบน้ำ 1-2 ครั้งต่อวัน หรือมากกว่านั้นหากมีการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายผลิตเหงื่อมาก เพื่อป้องกันการหมักหมมของสิ่งสกปรกบริเวณจุดซ่อนเร้น และควรใช้เพียงน้ำเปล่า หรือผสมสบู่อ่อนๆ ล้างจุดซ่อนเร้นเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้น เพราะการใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะทำให้ช่องคลอดมีสถานะเป็นด่าง นำไปสู่ภาวะแบคทีเรียไม่สมดุลได้
- เลือกผลิตภัณฑ์ในการทำความสะอาดแบบอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ให้ความสำคัญกับการเลือกน้ำยาปรับผ้านุ่ม ครีมอาบน้ำด้วย
- รักษาความสะอาดในช่วงมีประจำเดือน ในช่วงมีประจำเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ 4-6 ชั่วโมง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ดื่มน้ำมากๆ เพื่อกระตุ้นสารคัดหลั่งภายในร่างกายที่ช่วยทำความสะอาด
- รักษาความสะอาดจุดซ่อนเร้น เมื่อปัสสาวะ ควรทำความสะอาดที่จุดซ่อนเร้นก่อนบริเวณทวารหนักที่อาจมีเชื้อแบคทีเรียติดมาที่จุดซ่อนเร้นได้
สรุป
ช่องคลอดมีกลิ่น ปัญหาที่ไม่ใช่แค่ทำให้สาวๆ เสียความมั่นใจ แต่ยังอาจกลายเป็นสัญญาณของโรคที่อันตรายได้อีกด้วย ควรให้ความสำคัญกับการดูแลความสมดุลของช่องคลอด และสังเกตหากน้องสาวมีกลิ่นคาว โดยป้องกันการเกิดกลิ่นที่จุดซ่อนเร้นได้จากการลด และหลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่นคาว เช่น การเลี่ยงใส่เสื้อผ้าที่รัดจนเกินไป การทำความสะอาดให้ถูกวิธี ไม่สวนล้างช่องคลอด และที่สำคัญคือการดูแลอาหารที่กิน ไม่กินอาหารรสจัด หรือมีกลิ่นแรง เพิ่มการกินอาหารที่มีโพรไบโอติก และแลคโตบาซิลัส เพื่อปรับสมดุลของช่องคลอด หมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย หากมีกลิ่นที่ผิดปกติ คือเป็นกลิ่นคาวคล้ายปลา ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจคัดกรองโรคที่อาจเป็นไปได้