Key Takeaway
|
DHA กรดไขมันจำเป็นที่ช่วยบำรุงสมอง และสายตาตั้งแต่วัยแรกเกิดถึงวัยผู้สูงอายุ พบมากในปลาทะเล สาหร่าย และไข่แดง แนะนำให้กินพร้อมมื้ออาหารเพื่อการดูดซึมที่ดี
ประโยชน์ของ DHA ต่อสมองและดวงตา ในทุกช่วงวัย
ร่างกายควรได้รับสารบำรุงจาก DHA ที่จะช่วยส่งเสริมสมดุลการทำงานของดวงตาและสมองของคนทุกช่วงวัย โดยประโยชน์ที่จะได้รับจากการกินอาหารเสริม DHA มีดังต่อไปนี้
_Content-03.jpg)
ทารกในครรภ์และวัยแรกเกิด
สำหรับทารกในครรภ์มารดานั้น จำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่าง DHA เข้าสู่ร่างกายผ่านสายสะดือจากมารดา เพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของระบบประสาท และยังช่วยป้องกันเรื่องการคลอดก่อนกำหนด
ส่วนเด็กวัยแรกเกิดในช่วงอายุ 6 เดือนแรก การได้รับ DHA จะช่วยเสริมสร้างระบบประสาทและสายตาในการมองเห็น โดยจะทำหน้าที่ในการส่งสัญญาณระหว่างเส้นประสาท ซึ่งจะมีการเชื่อมโยงกันกับระบบการสั่งงานของสมองของเด็ก1
_Content-04.jpg)
ช่วงวัยเด็ก
สำหรับช่วงวัยเด็ก การได้รับ DHA ก็ยังคงมีความสำคัญ เพราะ DHA จะช่วยเสริมสร้างระบบประสาทและสมองของเด็ก รวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกันและเสริมสร้างสติปัญญา โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เด็กๆ ต้องใช้สมองในการจดจำบทเรียนที่มากขึ้น หรือการเรียนออนไลน์ที่ต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน อีกทั้งยังต้องทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิและความจำสูง เช่น การเรียนดนตรี กีฬา เป็นต้น ดังนั้น DHA คือกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายขาดไม่ได้ หากไม่ได้รับ DHA ร่างกายจะทำงานผิดปกติไปจากเดิม3
_Content-05.jpg)
ช่วงวัยผู้ใหญ่
ในส่วนของวัยผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นวัยที่ต้องมีความรับผิดชอบสูง ทั้งต่อตนเอง ที่ทำงาน และครอบครัว ก็ไม่ควรมองข้ามการกินอาหารเสริม DHA เพราะ DHA จะช่วยบำรุงสายตาที่ต้องจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ และสมาร์ตโฟนเป็นเวลานาน อีกทั้งยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมองในการประชุม วางแผน และแก้ปัญหา รวมถึงลดความเครียดจากการทำงานหนัก
นอกจากนี้ DHA ยังมีความสำคัญต่อระบบเมตาโบลิซึมของสมอง และช่วยส่งเสริมการทำงานของสายตา4 ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงาน พร้อมที่จะเผชิญทุกความท้าทายที่เข้ามาในชีวิต
_Content-06.jpg)
ช่วงวัยสูงอายุ
อีกช่วงวัยที่ต้องใช้ DHA ก็คือ ช่วงวัยสูงอายุ เพราะเป็นช่วงวัยที่ระบบการทำงานของร่างกายเริ่มมีความเสื่อมโทรม และแก่ชราไปตามวัย จนอาจจะก่อให้เกิดปัญหาทางสุขภาพได้ แต่ DHA นั้น จะช่วยทำให้ระบบการทำงานของเส้นประสาทแก่ชราน้อยลง อีกทั้งยังช่วยในการจดจำเรื่องราวในชีวิตประจำวัน เช่น การทานยา การนัดหมาย เป็นต้น ดังนั้น จึงทำให้ผู้สูงวัยที่ได้รับ DHA อย่างสม่ำเสมอ มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ น้อยกว่าผู้ที่ขาดสารอาหาร DHA5
DHA กับคุณประโยชน์อื่นๆ ที่ควรรู้
นอกจาก DHA จะมีประโยชน์ต่อระบบประสาทในสมอง และการมองเห็นของดวงตาในวัยต่างๆ แล้ว ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกหลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
- ช่วยลดโอกาสในการเป็นโรคหัวใจ
- ช่วยทำให้ร่างกายเกิดการอักเสบน้อยลง
- ช่วยให้กล้ามเนื้อคืนสู่สภาพได้ดีขึ้น หลังการออกกำลังกาย
- ช่วยลดโอกาสในการเป็นมะเร็ง
- ช่วยบำรุงระบบการหมุนเวียนเลือดของร่างกาย
- ช่วยลดความดันในเลือด
- ช่วยส่งเสริมระบบการสืบพันธุ์ของเพศชาย
- ช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพจิต7
_Content-07.jpg)
อาหารที่อุดม DHA แหล่งโอเมกา 3 ที่ไม่ควรพลาด
จริงๆ แล้วอาหารที่เรากินกันในชีวิตประจำวันก็มีมากมายหลากหลายเมนู แต่จะมีเมนูไหนบ้างที่มี DHA เป็นส่วนประกอบสำคัญ โดย DHA นั้นมีอยู่ในแหล่งอาหารชนิดต่างๆ ทั้งพืชและสัตว์ ดังต่อไปนี้
- เนื้อปลาแมคเคอเรล 100 กรัม มี DHA 1.25 กรัม12
- เนื้อปลาแอนโชวี่ 100 กรัม มี DHA 0.9 กรัม13
- เนื้อปลาแซลมอน 100 กรัม มี DHA 1.46 กรัม
- เนื้อปลาซาร์ดีนกระป๋อง 100 กรัม มี DHA 0.51 กรัม
- เนื้อปลาแอทแลนติกแมคเคอเรล 100 กรัม มี DHA 0.7กรัม
- เนื้อปลาทูน่าครีบน้ำเงิน 100 กรัม มี DHA 1.14 กรัม
- เนื้อปลาหมึกกล้วย 100 กรัม มี DHA 0.42 กรัม
- เนื้อหอยแมลงภู่ 100 กรัม มี DHA 0.51 กรัม
- เนื้อหอยนางรม 100 กรัม มี DHA 0.5 กรัม
- ไข่ปลาคาเวียร์ 100 กรัม มี DHA 1.36 กรัม
- เนื้อปลาเฮอร์ริ่ง 100 กรัม มี DHA 0.55 กรัม
- เนื้อปูหิมะ 100 กรัม มี DHA 0.15 กรัม8
ปริมาณ DHA ที่เหมาะสมสำหรับทุกช่วงอายุ
เพื่อรักษาสมดุลของระบบประสาทและสมอง ทำให้เราต้องได้รับ DHA ในแต่ละวันให้เพียงพอ โดยน้ำมันปลาปริมาณ 5 กรัม มี DHA 0.07-0.31 กรัม และมี EPA 0.16-0.56 กรัม ซึ่งแต่ละช่วงวัยร่างกายของคนเราต้องการ DHA ไม่เท่ากัน โดยสัดส่วนการกินอาหารเสริม DHA ที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัย มีดังต่อไปนี้
- หญิงท้องหรือหญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ต้องได้รับ DHA มากกว่า 0.2 กรัม หรือ DHA และ EPA ในปริมาณ 0.3-0.9 กรัมต่อวัน
- เด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี ต้องได้รับ DHA ประมาณ 0.01-0.012 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
- เด็กอายุ 2 ขวบ ขึ้นไป ต้องได้รับ DHA ไม่เกิน 0.25 กรัมต่อวัน
- ผู้ใหญ่ ต้องได้รับ DHA มากกว่า 0.25 กรัมต่อวัน แต่ไม่เกิน 0.5 กรัมต่อวัน
- ผู้ป่วยด้านการรับรู้หรือความทรงจำ ต้องได้รับ DHA ประมาณ 0.5–1.7 กรัมต่อวัน 9
ได้รับ DHA เวลาไหน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
การกินอาหารเสริม DHA ที่จะส่งผลดีต่อร่างกายมากที่สุด คือ การกินไปพร้อมๆ กับอาหาร เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายสามารถดูดซึม DHA ไปใช้งานได้ดีที่สุด นอกจากนี้ ยังสามารถลดผลข้างเคียงของการได้รับ DHA ได้ เช่น มีกลิ่นปาก ท้องเสีย หรือเรอ ได้อีกด้วย10
กลุ่มคนที่ควรระวังก่อนกินอาหารเสริม DHA
ถึงแม้ว่า DHA นั้นจะมีประโยชน์มากเพียงใด แต่ก็ยังมีข้อควรระวังอยู่บ้าง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อไปนี้
- ผู้ที่มีอาการแพ้อาหารตระกูลปลาหรือหอย
- หญิงตั้งครรภ์ หรือหญิงกำลังจะตั้งครรภ์ โดยควรรับอาหารเสริม DHA หลังจากตั้งครรภ์ไปแล้วอย่างน้อย 3 เดือน
- หญิงให้นมบุตร โดยเด็กแรกเกิดยังไม่ควรได้รับ DHA ทันที ควรรอให้มีอายุครบ 3 เดือนก่อน
- ผู้ที่ใช้ยาต้านอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ หรือยากันเลือดแข็งตัว เพราะ DHA อาจทำให้เลือดใช้เวลาในการแข็งตัวนานขึ้น11
สรุป
DHA มีความสำคัญต่อร่างกายของคนทุกเพศทุกวัย เพราะเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาททั้งสายตาและสมอง คนในแต่ละช่วงวัยจึงควรกินอาหารเสริม DHA ให้เพียงพอให้แต่ละวัน ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพื่อรักษาสมดุลการทำงานของร่างกายในทุกๆ วัน