ประโยชน์ของเมล็ดเชียจากสารต้านอนุมูลอิสระ ปรับสมดุลไมโครไบโอมของผิว ช่วยลดน้ำหนัก ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ บำรุงกระดูก ลดน้ำตาลในเลือด และบำรุงสุขภาพลำไส้
เมล็ดเชีย คืออะไร?
เมล็ดเชีย หรือ เมล็ดเจีย หรือ เชียซีด (Chia Seed) คือ ธัญพืชขนาดเล็กชนิดหนึ่งลักษณะเป็นรูปไข่เรียวรีคล้ายกับเม็ดแมงลัก มีหลากหลายสี เช่น สีขาว สีดำ สีน้ำตาลเทา หรือสีครีม เมื่อแช่น้ำจะเกิดการพองตัว สามารถทานได้โดยไม่ต้องแปรรูป นิยมนำมาโรยบนเมนูอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เนื่องจากเมล็ดเชียเป็นพืชที่มีประโยชน์ ให้พลังงานสูง และเต็มไปด้วยสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะเมล็ดเชียขาว มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยรักษาสมดุลของไมโครไบโอมผิว ให้ผิวแข็งแรง และสมดุล โปรตีน เส้นใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ ไปจนถึงแร่ธาตุและวิตามินต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย1,2 ทำให้เมล็ดเชียได้รับความนิยมไปทั่วโลกสำหรับผู้ที่สนใจเรื่องผิวพรรณและต้องการรักษารูปร่าง
ประโยชน์ของเมล็ดเชีย
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พูดถึงประโยชน์ของเมล็ดเชีย ซึ่งเต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้ในปัจจุบันคนที่ต้องการลดน้ำหนักมักจะนึกถึงการกินเมล็ดเชียเป็นอันดับแรก และเมล็ดเชียก็ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ดังนี้
ช่วยลดน้ำหนัก
เมล็ดเชียมีส่วนช่วยให้ลดน้ำหนักได้ เนื่องจากในเมล็ดเชียมีเส้นใยอาหารและโปรตีนค่อนข้างสูง ทำให้เมื่อกินเข้าไปจะรู้สึกอิ่มได้เร็วและนานขึ้น นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติที่จะขยายตัวเมื่อถูกแช่ในน้ำจะช่วยให้รู้สึกอิ่มได้ง่ายขึ้นเช่นกัน จากการวิจัยพบว่ากลุ่มคนที่กินเมล็ดเชียคู่กับโยเกิร์ตเป็นอาหารเช้านั้นจะเพิ่มรู้สึกอิ่มมากกว่าคนที่ไม่ได้กินเมล็ดเชีย3,7 อีกทั้งมีบางงานวิจัยพบว่ากลุ่มคนที่กินเมล็ดเชียช่วยให้น้ำหนักและรอบเอวลดลงได้2
เริ่มต้นลดน้ำหนัก
ช่วยส่งเสริมให้ผิวสุขภาพดี
เมล็ดเชียช่วยส่งเสริมให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้นได้ ไม่ใช่เพียงจากการกินเท่านั้น การใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากเมล็ดเชียขาวซึ่งมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ยังสามารถช่วยให้ผิวกระจ่างใส ชะลอการเกิดริ้วรอย ป้องกันผิวแห้ง9 ช่วยให้ผิวแลดูแข็งแรงสุขภาพดีขึ้นได้อีกด้วย
ช่วยปรับสมดุลไมโครไบโอมของผิว
ประโยชน์ของเมล็ดเชียมีส่วนช่วยในการปรับสมดุลไมโครไบโอมของผิว ไม่ว่าจะจากการกินเมล็ดเชียที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 และการใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของเมล็ดเชียขาว จะช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและทำให้ไมโครไบโอมของผิวมีความสมดุลมากขึ้น10
ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว
การใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันเมล็ดเชียขาว มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวชั้นนอก ซึ่งเป็นเกราะป้องกันช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวแห้งเสียจากปัจจัยสิ่งแวดล้อม สภาพอากาศ มลภาวะต่างๆ10
มีส่วนช่วยในการต้านอนุมูลอิสระ
ในเมล็ดเชียเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น Chlorogenic acid, Caffeic acid, Myricetin, Quercetin และ Kaempferol3 ซึ่งการได้รับสารต้านอนุมูลอิสระที่เพียงพอมีส่วนช่วยในการทำให้สารอนุมูลอิสระมีความเป็นกลาง ปรับสมดุลระบบต่างๆ ภายในร่างกาย ช่วยลดการเกิด Oxidative stress หรือ Nitrosative stress ที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดโรคเรื้อรังอื่นๆ ตามมา11
ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
การกินเมล็ดเชียซึ่งเป็นธัญพืชที่มีเส้นใยอาหารและโอเมก้า 3 สูง ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้3 มีการวิจัยพบว่าการบริโภคเส้นใยอาหารจะช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลในเลือด12 รวมไปถึงกรดไขมันโอเมก้า 3 Alpha-Linolenic Acid (ALA) ซึ่งพบว่ามีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้2
บำรุงสุขภาพกระดูก
เมล็ดเชียอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญต่อสุขภาพกระดูกและฟัน ไม่ว่าจะเป็น แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โพแทสเซียม3,4 มีผลการวิจัยพบว่าการได้รับแร่ธาตุจำเป็นที่เพียงพอจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก จึงลดโอกาสเกิดกระดูกพรุน ดังนั้นการกินเมล็ดเชียจึงมีส่วนช่วยบำรุงให้กระดูกแข็งแรงขึ้นได้13
ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
การกินเมล็ดเชียช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยลดความเสี่ยงของภาวะดื้ออินซูลินได้ คือมีส่วนช่วยให้เซลล์ในร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีมากขึ้น เนื่องจากเส้นใยอาหาร กรดไขมัน และโปรตีนในเมล็ดเชียมีประโยชน์ช่วยชะลอกระบวนการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้เป็นน้ำตาลของร่างกายให้ช้าลง จึงทำให้ลดระดับน้ำตาลที่จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้4 จากการวิจัยพบว่ามีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานได้15
เริ่มต้นลดน้ำหนัก
มีส่วนช่วยเรื่องความดันโลหิตสูง
ในเมล็ดเชียมีกรด Chlorogenic ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดระดับความดันโลหิตได้3 มีการวิจัยศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของเมล็ดเชียกับการรักษาโรคความดันโลหิตสูงซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด5 พบว่ากลุ่มผู้ป่วยความดันโลหิตสูงทั้งที่กำลังรับยารักษาและไม่ได้รับยารักษา ที่กินเมล็ดเชียเป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ มีระดับความดันโลหิต รวมถึงระดับไขมันในเลือดลดลง2
เมล็ดเชีย ช่วยเรื่องลดน้ำหนักอย่างไร?
การกินเมล็ดเชียมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก เนื่องจากในเมล็ดเชียเต็มไปด้วยเส้นใยอาหาร โปรตีน กรดไขมันดี แร่ธาตุ วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็น ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ ที่สำคัญคือช่วยลดความอยากอาหาร ทำให้รู้สึกอิ่มได้ง่ายและนานขึ้น3,7
เมล็ดเชีย ช่วยเรื่องผิวอย่างไร?
เมล็ดเชียนอกจากจะใช้กินเพื่อรับสารอาหารต่างๆ ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ที่ช่วยบำรุงผิวจากภายในแล้ว ยังมีเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากเมล็ดเชียขาวซึ่งมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ชะลอการเกิดริ้วรอย9 ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นป้องกันผิวแห้ง มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลไมโครไบโอมของผิว10 ช่วยให้ผิวแลดูแข็งแรงสุขภาพดีขึ้นได้
อ่านเพิ่มเติมเรื่องเมล็ดเชียขาว คลิก
วิธีการใช้เมล็ดเชียให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
นำมาประกอบอาหาร
เมล็ดเชียสามารถกินได้ทั้งแบบแห้ง หรือแบบแช่น้ำ โดยสามารถกินคู่กับอาหารหรือเครื่องดื่มต่างๆ ได้ตามชอบ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องท้องอืด ท้องผูก ขับถ่ายยากควรกินเมล็ดเชียแบบแช่น้ำเท่านั้น โดยไม่ได้มีกำหนดอัตราส่วนในการแช่น้ำแบบตายตัว แต่ที่เหมาะสมคือเมล็ดเชีย 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำไม่น้อยกว่า 400 cc
โดยคนที่ยังไม่เคยกินเมล็ดเชียมาก่อน ควรเริ่มกินในปริมาณน้อยประมาณ 2 - 3 ช้อนชาต่อวันเพื่อให้ร่างกายคุ้นเคยก่อนแล้วจึงค่อยปรับปริมาณให้เพิ่มขึ้น แต่ไม่ควรบริโภคเมล็ดเชียเกิน 6 ช้อนโต๊ะต่อวัน1
สกัดเมล็ดเชียเป็นสกินแคร์
สารสกัดในเมล็ดเชีย มีประสิทธิภาพในการฟื้นบำรุงผิว เหมาะสำหรับนำมาใช้ในสกินแคร์เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และเติมเกราะป้องกันความชุ่มชื้นของผิว ช่วยปรับปรุงให้ผิวมีความยืดหยุ่น อวบอิ่ม และอ่อนนุ่มยิ่งขึ้น เพียงทาลงบนใบหน้าและลำคอหลังจากล้างทำความสะอาดหน้า18 หรือหากต้องการขัดผิว สามารถนำเมล็ดเชียมาขัดไปบนผิวขณะอาบน้ำ เพื่อช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว19 และช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน ให้ความชุ่มชื้น ไม่ทำลายเกราะป้องกันผิวหนัง หรือทำให้ผิวของคุณแดงหรืออักเสบ เป็นวิธีที่อ่อนโยน ทำให้ผิวเรียบเนียน นุ่ม และสะอาด
ควรใช้เมล็ดเชียในปริมาณเท่าไรต่อวัน
เมล็ดเชียในอาหารเสริม
เมล็ดเชียสามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัย แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม สำหรับการกินเมล็ดเชียเป็นอาหารเสริมควรอ่านคำแนะนำบนฉลากก่อนกิน เพื่อให้ได้ปริมาณสารสกัดจากเมล็ดเชียในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งแต่ละวัยหรือแต่ละกลุ่มคนควรกินเมล็ดเชียในปริมาณที่แตกต่างกัน ดังนี้
- เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ควรกินประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน
- ผู้ใหญ่ ควรกินประมาณ 15 กรัม หรือ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
- ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรกินแบบป่นประมาณ 33-41 กรัม ทุก 3 เดือน17
เริ่มต้นลดน้ำหนัก
สกินแคร์ที่มีเมล็ดเชียเป็นส่วนผสม
ในการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนประกอบเป็นเมล็ดเชีย ควรใช้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หลังจากล้างทำความสะอาดผิวหน้า หรือบ่อยครั้งตามต้องการ
ข้อควรระวังในการใช้เมล็ดเชีย
เมล็ดเชียค่อนข้างปลอดภัยต่อร่างกาย แต่มีข้อยกเว้นที่อาจจะส่งผลต่อคนบางกลุ่ม ซึ่งมีกลุ่มคนที่ควรระมัดระวังในการใช้เมล็ดเชีย ดังนี้
- คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบกระเพาะอาหารและลำไส้1,6,17
- คนที่ต้องเข้ารับการศัลยกรรม ผ่าตัด หรือมีประวัติการใช้ยาแอสไพริน เพราะจะมีผลต่อภาวะเลือดแข็งตัวช้า1,17
- คนที่เป็นโรคแพ้โปรตีนในธัญพืช (กลูเตน)1,6
- ผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องต่อมลูกหมาก เนื่องจากการกินเมล็ดเชียมากเกินไปจะกระตุ้นความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก1,17
- ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร1,17
- ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตต่ำ อาจทำให้เกิดอาการช็อก หรือหมดสติได้1,17
สรุป
เมล็ดเชีย คือ ธัญพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน เส้นใยอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ และวิตามินต่างๆ มากมาย ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก การบำรุงผิวให้กระจ่างใส กักเก็บความชุ่มชื้น และเพิ่มความสมดุลให้ไมโครไบโอมของผิว ส่งผลให้ผิวดูสุขภาพดี หากผิวหมองคล้ำจากแสงแดด มลภาวะ ด้วยประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยม ช่วยต่อสู้กับความเสียหายของผิวจากอนุมูลอิสระ รวมถึงยังช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจน ให้ผิวกระชับขึ้น ดูอ่อนกว่าวัย