คนที่พยายามลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร หลายคนคงเคยประสบกับภาวะที่เรียกว่า โยโย่ เอฟเฟกต์ (Yoyo Effect) แต่บางคนก็อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือสงสัยว่าโยโย่ เอฟเฟกต์ คืออะไร
โยโย่ คืออะไร?
โยโย่ เอฟเฟกต์ เป็นคำเรียกที่เปรียบเทียบลักษณะการเหวี่ยงขึ้นอย่างรวดเร็วของลูกดิ่งหรือโยโย่กับน้ำหนักตัว เวลาเราเล่นโยโย่ เราจะต้องจับลูกโยโย่โยนลงพื้น ถ้าเราออกแรงทิ้งลงไปมาก ลูกโยโย่ก็จะดีดกลับขึ้นมาเร็วและแรง เราจึงเรียกการเหวี่ยงตัวขึ้นของน้ำหนักตัวหลังการลดน้ำหนักอย่างผิดวิธีว่า โยโย่ เอฟเฟกต์ เรามักเห็นได้ชัดเจนในคนอ้วนที่พยายามลดความอ้วนจนกลายเป็นคนผอมอย่างรวดเร็ว แต่ก็ผอมได้ไม่นานก็กลับไปอ้วนอีก ทำให้ต้องเพียรพยายามอย่างหนักขึ้นอีกเพื่อให้กลับไปผอม เพราะว่าอ้วนเร็วขึ้น มิหนำซ้ำยังอ้วนมากกว่าเดิม ทั้งนี้ก็เพราะร่างกายเสียสมดุลในการเผาผลาญไปแล้ว
อาการโยโย่พบมากในผู้ที่ชอบพึ่งทางลัดในการลดน้ำหนัก เช่น กินยาลดความอ้วน เพราะยาลดความอ้วนจะไปออกฤทธิ์กดประสาท ทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มตลอดเวลา ทำให้ระบบการเผาผลาญมีการจดจำภาวะการทำงานของร่างกายแบบผิดปกติ หรือเกิดภาวะการขาดความสมดุลของร่างกายนั่นเอง เนื่องจากร่างกายของคนเรามีความสลับซับซ้อนมาก ระบบการเผาผลาญพลังงานสามารถสั่งการได้ด้วยกิจวัตรประจำวัน ร่างกายจึงอาศัยความเคยชินกับปริมาณอาหารและปริมาณแคลอรีที่ได้รับในแต่ละวัน รวมทั้งกิจกรรมที่เกิดขึ้นกับตัวเราเองในแต่ละวันเป็นตัวกำหนดอัตราการเผาผลาญ
สำหรับผู้ที่หวังพึ่งทางลัด เมื่อเลิกกินยาลดความอ้วน ก็จะกลับมากินอาหารตามปกติเหมือนเดิมและอาจมากกว่าเดิม เนื่องจากร่างกายและจิตใจเกิดความโหยหิวอาหารมาตลอด รวมถึงร่างกายมีการปรับตัวให้มีการเผาผลาญอาหารลดลง เช่น ระหว่างที่กินยาลดความอ้วนนั้น จากเดิมที่ร่างกายเคยกินอาหารวันละ 2,000 แคลอรี แต่พอกินยาแล้วไม่หิว จึงกินอาหารลดลง ทำให้การเผาผลาญพลังงานของร่างกายเหลือเพียงวันละ 1,000 แคลอรี พอผ่านไปสักระยะหนึ่ง อัตราการเผาผลาญของร่างกายก็จะถูกปรับจาก 2,000 แคลอรี ให้เหลือเพียง 1,000 แคลอรี เป็นกลไลการป้องกันการขาดสารอาหารของร่างกาย เมื่อกินน้อยลง ร่างกายก็จะปรับให้เผาผลาญพลังงานน้อยลงด้วย
ดังนั้น หากเรากลับมากินอาหารตามปกติ แม้ว่าอาจจะกินน้อยกว่าเดิม โดยกินอาหารเหลือวันละ 1,500 แคลอรี เราก็มีสิทธิ์ที่จะกลับมาอ้วนได้ เพราะร่างกายเราสามารถเผาผลาญได้แค่ 1,000 แคลอรีเท่านั้น
เหลืออีกตั้ง 500 แคลอรี จะไปไหน… ก็กลับมาพอกตามร่างกายใหม่เหมือนเดิม ดังนั้น วิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผลในระยะยาวคือการควบคุมอาหารอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการออกกำลังกาย เพื่อคงระดับเมแทบอลิซึมให้สมดุลกับอาหารที่กินเข้าไป ฉะนั้นถ้าไม่อยากโยโย่ ก็อย่าเลือกลดความอ้วนด้วยการกินยาลดความอ้วนหรืออดอาหาร ควรเริ่มต้นออกกำลังกายตั้งแต่วันนี้!