สมุนไพรจีน มีการใช้งานกันมาอย่างยาวนานในประเทศจีน โดยสมุนไพรแต่ละชนิดมีสรรพคุณหลากหลายประการที่ส่งผลดีต่อร่างกาย เช่น เสริมภูมิคุ้มกัน บำรุงผิวพรรณ บำรุงปอด ช่วยให้นอนหลับสบาย รักษาวัยทอง และลดความดันโลหิต
การแพทย์ กับสมุนไพรจีน
การแพทย์แผนจีนมีการใช้ในการรักษามานานกว่า 5,000 ปี และได้แพร่หลายเข้ามาในประเทศไทยในช่วงศตวรรษที่ 3 สมุนไพรจีนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญในการรักษา โดยสมุนไพรจีนโบราณที่ใช้เป็นเครื่องตุ๋นยาจีน มีส่วนช่วยในด้านการแพทย์หลายประการ เช่น บรรเทาอาการปวดบริเวณต่างๆ ช่วยขับเสมหะ แก้ไอ ขับลม รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันดวงตาจากแสงแดด ลดอาการบวมน้ำ แก้ท้องเสีย ลดการอักเสบของแผล ช่วยสลายเลือดคั่ง และการอักเสบของหลอดเลือด1
สมุนไพรจีนโบราณ ในยุคสมัยใหม่
เทรนด์การใช้สมุนไพรจีนเป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพและบำรุงร่างกาย ได้รับความนิยมมากขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่และผู้ที่รักสุขภาพ โดยในปัจจุบันศูนย์วิจัยพฤกษศาสตร์แอมเวย์เป็นแห่งแรกที่คิดค้นเทคโนโลยี Smart Herb ซึ่งเป็นฐานข้อมูลสมุนไพรอัจฉริยะ ช่วยให้เข้าใจว่าพืชสมุนไพรทำงานอย่างไร และมีผลในการแก้ไขปัญหาสุขภาพอย่างไรในแต่ละส่วนในร่างกาย รวมถึงนำข้อมูลส่วนผสม โครงสร้างของพืช คุณสมบัติ การออกฤทธิ์ สูตรยาดั้งเดิม และวิธีการใช้พืชสมุนไพร มาวิเคราะห์รหัสสมุนไพรแล้วเลือกสูตรที่ยอดเยี่ยมที่สุดก่อนนำไปสกัดเป็นวิตามินและอาหารเสริม
สมุนไพรจีน ช่วยอะไรบ้าง
สมุนไพรจีนมีมากมายหลายชนิด แต่ละชนิดมีสรรพคุณในการบำรุงและรักษาร่างกายที่แตกต่างกัน ซึ่งการรักษาตามทฤษฎีการแพทย์แผนจีนนั้น จะมุ่งหาสาเหตุของการเกิดโรค การรักษา การบำรุง และการป้องกัน โดยเน้นการปรับสมดุลต่างๆ ในร่างกาย1
สมุนไพรจีนเสริมภูมิคุ้มกัน
ตามหลักการแพทย์แผนจีน เชื่อว่าภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเกิดจากความสมดุลของลมปราณและเลือด และการทำงานของอวัยวะต่างๆ ถ้าหากปัจจัยเหล่านี้มีปัญหาก็ส่งผลต่อภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ สมุนไพรจีนที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เช่น เห็ดหลินจือ เว่ยชี่ เป็นต้น
- สารหรือวิตามินที่สำคัญ
ในพืชสมุนไพรที่เสริมภูมิคุ้มกัน อย่างเห็ดหลินจือ จะมีสารไตรเทอร์พีนอยด์ โพลีแซคลาไรด์ เจอร์เมเนียม และนิวคลีโอไทด์ ที่ช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดขาวให้สามารถสู้กับสิ่งแปลกปลอมในร่างกายได้ดีขึ้น
- สรรพคุณและประโยชน์
เสริมภูมิคุ้มกันโดยช่วยขจัดอนุมูลอิสระ ต้านเนื้องอก ต้านไวรัส ต้านมะเร็ง และช่วยต้านการกลายพันธุ์ของยีน
- ปริมาณที่ควรใช้
การต้มเห็ดหลินจือ สามารถต้มดื่มเป็นซุปบำรุงสุขภาพได้ทุกวัน ในปริมาณ 4-15 กรัม ต่อวัน
- วิธีการใช้งาน
นำเห็ดหลินจือไปตากแดดจนแห้ง หลังจากนั้นหั่นฝานเป็นแว่น และบดเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนนำไปต้ม6
สมุนไพรจีนช่วยให้นอนหลับสบาย
ตามหลักการแพทย์แผนจีน เชื่อว่าอาการนอนไม่หลับเกิดจากความไม่สมดุลที่หัวใจ เกิดความร้อนมารบกวน จิตใจไม่สงบ ซึ่งการนอนไม่หลับนั้นส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และระบบการทำงานหัวใจ ซึ่งหัวใจมีความสัมพันธ์กับตับ ม้ามอีกด้วย ซึ่งมีสมุนไพรจีนช่วยให้นอนหลับ อาทิ เมล็ดพุทราจีน โสม และเก๋ากี้
- สารหรือวิตามินที่สำคัญ
การที่นอนไม่หลับมีหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักที่ไม่อาจมองข้ามนั้นก็คือ ความเครียด ซึ่งเมล็ดพุทราจีนเป็นสมุนไพรจีนที่โดดเด่นในเรื่องลดความเครียด เพราะมีกรดเบตูลินิกที่สามารถเพิ่มระดับกลูตาไธโอน เป็นสารที่ลดความเครียด ทำให้อารมณ์ดีขึ้น และเป็นเหตุผลที่ทำให้หลับสบาย7
- สรรพคุณและประโยชน์
เมล็ดพุทราจีนมีสรรพคุณรักษาอาการนอนไม่หลับ ลดความกังวล กระตุ้นให้สมองผ่อนคลาย ลดการปวดประจำเดือน และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดได้เป็นอย่างดี
- ปริมาณที่ควรใช้
สารสกัดจากเมล็ดพุทราจีนปริมาณ 150 มิลลิกรัม ก็เพียงพอต่อการออกฤทธิ์ สามารถรับประทานต่อเนื่องได้เรื่อยๆ เนื่องจากไม่มีสารเคมีสังเคราะห์ที่เป็นอันตรายต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง
- วิธีการใช้งาน
เนื่องจากเมล็ดพุทราจีนไม่สามารถนำมารับประทานโดยตรงได้ จึงมีการนำมาสกัดเป็นอาหารเสริมในรูปแบบเม็ด เพื่อให้สะดวก และได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่
สมุนไพรจีนบำรุงผิวพรรณ
ตำราจีนเชื่อว่า ผิวพรรณที่ดี สดใสเปล่งปลั่ง เกิดจากระบบการไหลเวียนเลือดและระบบย่อยอาหาร สตรีจีนในยุคโบราณจึงต้องดูแลธาตุร้อนให้อยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าธาตุเย็นอยู่เสมอ เพื่อรักษาระดับฮอร์โมนที่ช่วยบำรุงผิวพรรณและระบบสืบพันธุ์
- สารหรือวิตามินที่สำคัญ
ไป๋สาว สมุนไพรจีนที่สามารถบำรุงผิวพรรณได้ และให้ผลลัพธ์ดี โดยมีสารไพโอนิฟลอริน พะนออล ไพโอนิน อัลบิฟลอริน ไตรเทอร์พีนอยด์ ซิสโตสเตอรอล10
- สรรพคุณและประโยชน์
ไป๋สาวมีสรรพคุณช่วยบำรุงการไหลเวียนของเลือด ทำให้ประจำเดือนมาปกติ และปรับสมดุลของหยางในตับ ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งประกายขึ้น
- ปริมาณที่ควรใช้
ต้มไป๋สาวกินครั้งละ 6-15 กรัม
- วิธีการใช้งาน
วิธีการกินไป๋สาวโดยทั่วไปจะนำไปอิ่นเพี่ยน หรือก็คือการล้างให้สะอาด ทิ้งไว้ให้เนื้อนิ่ม ฝาดตามขวางหรือเฉียง จากจากปล่อยให้แห้ง แล้วนำไปต้ม11
สมุนไพรจีนบำรุงปอด
ปอดเป็นอวัยวะที่ควบคุมการไหลเวียนลมปราณในร่างกาย ทำให้ของเหลวต่างๆ อยู่ในสภาวะสมดุล ไม่ขัดขวางระบบทางเดินหายใจ ซึ่งอาจส่งผลทำให้ภูมิต้านทานลดลง3 เช่น เป้ยหมู่
- สารหรือวิตามินที่สำคัญ
เป้ยหมู่ เป็นหนึ่งในสมุนไพรจีนที่บำรุงปอด บรรเทาอาการไอ มีสารที่สำคัญได้แก่ ไดเทอร์พีนอยด์ คาร์โบไฮเดรต สเตอรอล กรดอะมิโน และนิวคลีโอไซด์
- สรรพคุณและประโยชน์
เป้ยหมู่ มีสรรพคุณบรรเทาอาการไอ ลดไข้ สลายเสมหะ ขับหนอง แก้กระหายน้ำ ระบายความร้อนออกจากปอด12
- ปริมาณที่ควรใช้
ควรกินเป้ยหมู่ 3-10 กรัม (ในรูปแบบผง) ต้มดื่ม ครั้งละ 1-2 กรัม
- วิธีการใช้งาน
นำเป้ยหมู่ไปทำความสะอาด โดยการกำจัดรากฝอย นำเศษดินออก ปอกเปลือก และนำไปตากให้แห้งแช่เย็น13
สมุนไพรจีนช่วยรักษาวัยทอง
ตามหลักการแพทย์แผนจีน เชื่อว่าพลังไตทำงานน้อยลงในวัยทอง โดยเฉพาะผู้หญิง ทำให้ธาตุน้ำในร่างกายน้อยลง ธาตุไฟจึงทำให้หงุดหงิด นอนหลับยาก หากปัจจัยเหล่านี้มีปัญหาจะส่งผลต่อการนอน ช่องคลอดแสบแห้ง รวมถึงกระดูกพรุน
- สารหรือวิตามินที่สำคัญ
สูตี้หวง หรืออีกชื่อที่เรียกกันว่า โกฐขี้แมว เป็นสมุนไพรจีนช่วยรักษาวัยทอง ที่สารออกฤทธิ์ส่วนใหญ่เป็นไกลโคไซต์ อิชิคอยด์
- สรรพคุณและประโยชน์
มีสรรพคุณทำให้จิตใจสงบ ลดอาการหงุดหงิดง่าย ลดความร้อนในร่างกาย ช่วยบำรุงเลือดและไต14
- ปริมาณที่ควรใช้
ควรกินสูตี้หวงครั้งละ 2-3 มล. วันละ 2-3 ครั้ง
- วิธีการใช้งาน
ส่วนมากสูตี้หวงจะอยู่ในรูปแบบแปรรูป เป็นผง สามารถนำไปต้มดื่มได้เลย
สมุนไพรจีนลดความดันโลหิต
ตามหลักการแพทย์แผนจีน เชื่อว่าความดันโลหิตสูง เกิดจากการควบคุมร่างกายต่ำ การใช้ชีวิต การกินอาหาร และสภาพร่างกายที่สึกหรอ เมื่อมีปัญหาจะส่งผลกระทบต่อระบบหัวใจ ตับ ไต สมุนไพรจีนลดความดัน เช่น เก๊กฮวย ซันจา ใบบัว สิ่วโอว ดีบัว ซึงเกี้ยแซ แฮ่โกวเช่า โต่วต๋ง และเฮี่ยงเซียม
- สารหรือวิตามินที่สำคัญ
ดอกเก๊กฮวย สมุนไพรจีนลดความดันโลหิตที่หลายๆ คนคุ้นเคย มีสารฟลาโวนอยด์ สารไครแซนทีมิน สารอดีนีน สตาไคดวีน โคลีน กรดอะมิโน และ น้ำมันหอมระเหย15
- สรรพคุณและประโยชน์
ดอกเก๊กฮวย มีสรรพคุณที่ช่วยให้หลอดเลือดแดงใหญ่ขยาย ช่วยป้องกันการเกิดโรคเส้นเลือดตีบ อีกทั้งยังป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง16
- ปริมาณที่ควรใช้
ดื่มน้ำเก๊กฮวยวันละ 1-3 ครั้ง
- วิธีการใช้งาน
นำดอกเก๊กฮวยแห้งไปตากให้แห้ง และนำมาต้มในน้ำเดือด
วิธีกินสมุนไพรจีนให้ปลอดภัย
การกินสมุนไพรจีนให้ปลอดภัยจะขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคนและการใช้ชีวิตประจำวัน และการจะใช้สมุนไพรจีนเพื่อรักษาโรคควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ รวมถึงต้องคำนึงถึงแหล่งที่มาของสมุนไพร ต้องมาจากกระบวนการผลิตแบบออร์แกนิค ซึ่งเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยในการกินสมุนไพรในระยะยาว หรือการเลือกกินในรูปแบบอาหารเสริม กินง่าย สะดวก ปลอดภัย ได้รับคุณประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม
ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรจีน
- หญิงสตรีมีครรภ์ต้องใช้สมุนไพรจีนอย่างระมัดระวัง เนื่องจากบางชนิดทำให้แท้งลูกได้ สมุนไพรที่มีพิษมาก เช่น ปาโต๊ว (สลอด) เซียนหนิว เหยียนฮวา ซานหลิง ต้าจี๋ และกันสุ้ย
- ยาสมุนไพรบางชนิดห้ามใช้ร่วมกัน เพราะมีพิษรุนแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- ห้ามกินอาหารบางประเภทขณะใช้ยาสมุนไพรจีน เช่น น้ำเย็น ของมัน ของคาว และอาหารรสจัด
- สมุนไพรบางชนิดไม่ควรใช้กับผู้ที่มีอาการหรือโรคประจำตัวบางประเภท
- รีบหยุดกินทันทีเมื่อเกิดอาการแพ้
- ในผู้ป่วยโรคกระเพาะเมื่อกินตอนท้องว่างจะทำให้ระคายเคืองกระเพาะได้
- ระวังการกินร่วมกับยาปฏิชีวนะหรือยาแผนปัจจุบัน ควรเว้นห่างกันอย่างน้อย 1 ชั่วโมง หรือบางชนิดห้ามใช้ร่วมกัน
สรุป
>สมุนไพรจีนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญในการรักษาและบำรุงร่างกายที่มีการนำมาใช้ในวงการแพทย์แผนจีน โดยใช้เสริมภูมิคุ้มกัน ขจัดอนุมูลอิสระ ลดอาการหงุดหงิดง่าย ลดความเครียด ลดอาการปวดศีรษะ ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น บรรเทาอาการไอ ลดไข้ สลายเสมหะ บำรุงเลือด ลดความดันและไขมันในโลหิต รวมถึงสมุนไพรจีนช่วยให้นอนหลับสนิทและบำรุงปอดให้หายใจดีขึ้นอีกด้วย