• โปรตีนช่วยลดน้ำหนักโดยให้ความรู้สึกอิ่มนาน เพราะใช้พลังงานในการย่อยสูงกว่าสารอาหารอื่น อีกทั้งยังช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
  • คาร์โบไฮเดรตที่ช่วยลดน้ำหนักควรเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่มีใยอาหารสูง เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ข้าวกล้อง และผักใบเขียว เพราะย่อยช้า ช่วยให้อิ่มนาน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยในการขับถ่าย
  • แร่ธาตุที่ช่วยลดน้ำหนัก ได้แก่ แคลเซียมเผาผลาญไขมัน โพแทสเซียมควบคุมน้ำ และสังกะสีควบคุมความอยากน้ำตาล ควรได้รับจากผัก ผลไม้ ถั่ว และธัญพืชไม่ขัดสี
  • วิตามินที่มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญ โดยวิตามิน B เปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน วิตามิน D ควบคุมน้ำตาลในเลือด ส่วนวิตามิน C ช่วยสร้างคาร์นิทีนเผาผลาญไขมัน และวิตามิน E ต้านอนุมูลอิสระและรักษาสมดุลฮอร์โมน
  • ไขมันที่ช่วยลดน้ำหนักควรเป็นไขมันดีจากปลาทะเล น้ำมันมะกอก อะโวคาโด และถั่วต่างๆ เพราะช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการเผาผลาญ แต่ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะ และหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์

สารอาหาร คือ สารเคมีในอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีทั้งหมด 5 หมู่ ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่หรือแร่ธาตุ โดยทั้ง 5 สารนี้ยังแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ ได้แก่  

  1. สารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ประกอบไปด้วย โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน
  2. สารอาหารที่ไม่ให้พลังงาน ประกอบไปด้วยวิตามิน และเกลือแร่

หมู่ที่ 1 โปรตีน 

สารอาหารหมู่ที่ 1 คือโปรตีน เป็นสารอาหารที่พบได้จากเนื้อสัตว์ อาหารทะเล ไข่ รวมถึงพืชตระกูลถั่วต่างๆ เช่น ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วลันเตา โดยโปรตีนเป็นสารอาหารที่ช่วยเสริมภูมิต้านกิน ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ถือเป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายจะขาดไม่ได้เลย 

ประโยชน์ของโปรตีนช่วงลดน้ำหนัก

โปรตีนเป็นสารอาหารที่ให้พลังงาน อีกทั้งช่วยในเรื่องการเจริญเติบโตและซ่อมแซมกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกาย มีประโยชน์หลายด้าน ได้แก่

  • โปรตีนช่วยรักษาสมดุลของน้ำ โดยโปรตีนจะช่วยรักษาปริมาณน้ำในเซลล์ รวมถึงน้ำในหลอดเลือดให้มีปริมาณที่เหมาะสม
  • ช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญให้สามารถเผาผลาญพลังงานและแคลอรีได้ดี
  • ช่วยลดความอยากอาหาร เมื่อกินโปรตีนปริมาณมากขึ้นจะช่วยลดฮอร์โมนเกรลิน (Ghrelin Hormone) ที่กระตุ้นความหิว แล้วเพิ่มฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกอิ่มท้องเข้ามา
  • ช่วยลดความรู้สึกอยากกินของหวานในเวลากลางคืน

ควรกินโปรตีนอย่างไรช่วงลดน้ำหนัก8

หลายๆ คนคงเคยได้ยินว่าถ้าอยากลดน้ำหนักต้องกินโปรตีนเยอะๆ ซึ่งความจริงแล้วการกินโปรตีนจะต้องกินให้ถูกวิธี กินในปริมาณที่เหมาะสม ทั้งการกินโปรตีนจากพืชและโปรตีนจากสัตว์ โดยปกติใน 1 วัน ผู้หญิงควรได้รับโปรตีนอยู่ที่ 46 กรัม และผู้ชายควรได้รับโปรตีนอยู่ที่ 56 กรัม ซึ่งอาหารโปรตีนสูงที่ช่วยลดน้ำหนัก ได้แก่

  • ไข่ไก่ เป็นสารอาหารที่ให้โปรตีนได้ดี ไข่ไก่ 1 ฟองจะได้โปรตีน 7 กรัม โดยหากกินแค่ไข่ขาวจะได้โปรตีนถึง 4 กรัม และควรหลีกเลี่ยงไข่แดงเนื่องจากมีไขมันและคอเลสเตอรอลสูง
  • ถั่วเหลือง เป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีโปรตีนสูง เพียงกินถั่วเหลือง 100 กรัมจะได้โปรตีนถึง 34.1 กรัม9 เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนักเพราะให้พลังงานได้ดีและช่วยให้อิ่มท้องง่าย นอกจากนี้ยังมีกากใยอาหารมากซึ่งช่วยในการขับถ่าย 
  • เมล็ดเจีย เมล็ดธัญพืชชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กคล้ายเม็ดแมงลัก แค่เพียง 2 ช้อนโต๊ะจะได้โปรตีนถึง 4 กรัม10 นอกจากนี้ยังมีสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุอีกมากมาย และจากคุณสมบัติพองตัวออกเมื่อถูกแช่ในน้ำจึงทำให้อิ่มเร็วและอิ่มนาน อีกทั้งมีเส้นใยอาหารและกรดอัลฟาลีโนเลนิก (Alpha-Linolenic Acid) ที่มีส่วนช่วยลดน้ำหนักและไขมันอีกด้วย

การกินโปรตีนเพื่อลดน้ำหนักและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

มาดูวิธีการกินโปรตีนเพื่อลดน้ำหนักและไม่ให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพกัน

กินอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูง

การกินอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูงจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญและให้พลังงานที่ยาวนานตลอดช่วงเช้า ลดการกินระหว่างวัน เนื่องจากโปรตีนใช้เวลาในการย่อยนานกว่าคาร์โบไฮเดรต ทำให้รู้สึกอิ่มนานและช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี11 

นอกจากนี้ การกินโปรตีนในมื้อเช้ายังช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ เสริมสร้างการทำงานของสมอง และช่วยลดความอยากอาหารในช่วงสายถึงเที่ยง ทำให้ไม่รู้สึกหิวจนเกินไปและสามารถเลือกกินมื้อต่อไปได้ดีขึ้น ทางที่ดีควรกินโปรตีนร่วมกับผักและธัญพืชไม่ขัดสีเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน 

ตัวอย่างอาหารเช้าที่มีสารอาหารโปรตีนสูงและครบ 5 หมู่ ได้แก่ 

  • กรีกโยเกิร์ตธรรมชาติโรยถั่วเสิร์ฟพร้อมผลไม้สด 
  • ขนมปังโฮลเกรนทาเนยถั่วกินคู่กับไข่ต้มและผลไม้ 
  • โอ๊ตมีลใส่นมและเวย์โปรตีนโรยอัลมอนด์และเมล็ดเจีย 
  • สลัดไข่คนกับอะโวคาโดเสิร์ฟพร้อมขนมปังโฮลเกรน 
  • สมูทตี้โปรตีนสูงผสมนมถั่วเหลือง เวย์โปรตีน กล้วย และผลไม้ตามชอบ 

เลือกกินของว่างที่มีโปรตีนสูง

การเลือกกินของว่างที่มีโปรตีนสูงแทนการกินขนมมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

  • ช่วยให้อิ่มนานขึ้น โปรตีนทำให้อิ่มได้นานกว่าไขมันหรือคาร์โบไฮเดรต การกินของว่างที่มีโปรตีนสูงจะช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดการกินมากเกินไปและลดการกินของว่างที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
  • ให้พลังงานอย่างช้าๆ อาหารว่างที่มีโปรตีนสูงให้พลังงานต่อเนื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและมีสมาธิตลอดทั้งวัน
  • มีคุณค่าทางโภชนาการ ขนมขบเคี้ยวส่วนใหญ่มักมีคาร์โบไฮเดรตขัดสีและน้ำตาลสูง เมื่อกินแล้วอาจทำให้น้ำหนักขึ้น แต่ของว่างที่มีโปรตีนสูงมีสารอาหารที่ดีและมีประโยชน์กับร่างกาย

จัดสรรการกินโปรตีนในมื้อหลักให้ดี

เพื่อการลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพควรจัดสรรการกินโปรตีนในปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน โดยแบ่งเป็น 3 - 4 มื้อที่มีปริมาณเท่ากัน สำหรับคนที่ออกกำลังกายหนักอาจต้องเพิ่มมื้ออาหาร ปริมาณโปรตีนที่ควรได้รับต่อมื้ออยู่ที่ 0.3 - 0.55 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม11 

ตัวอย่างเช่น หากน้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม ควรได้รับโปรตีนต่อมื้อประมาณ 20 - 40 กรัม ขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำและความหนักของกิจกรรมนั้น การได้รับโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอ (ประมาณ 20 - 30 กรัม) ในมื้อเช้า กลางวันและเย็นจะช่วยให้ร่างกายใช้โปรตีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การเพิ่มปริมาณโปรตีนจะช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่มหรือลดความรู้สึกหิวด้วย

หากร่างกายขาดโปรตีนจะส่งผลอย่างไร 

หากขาดโปรตีน ซึ่งถือเป็นสารอาหารหลักที่ช่วยให้พลังงานแก่ร่างกายนั้นจะมีอาการดังนี้

  • สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อมีขนาดเล็กลง เนื่องจากร่างกายจะนำโปรตีนที่สะสมไว้ในกล้ามเนื้อลายมาใช้แทน ทำให้กล้ามเนื้อเล็กลงไปเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่ขาดโปรตีน
  • มีอาการผิดปกติบริเวณเส้นผม เช่น ผมร่วง ผมบางลงหรือขาดง่ายอย่างเห็นได้ชัด
  • มีอาการผิดปกติบริเวณเล็บมือ หรือเล็บเท้า เช่น เล็บเปราะ หรือเล็บเป็นคลื่น
  • มีอาการหิวบ่อย เนื่องจากโปรตีนเป็นสารอาหารที่ให้พลังงาน เมื่อขาดแหล่งพลังงานกลไกของร่างกายจะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกหิว อยากอาหารอยู่ตลอดเวลา

หมู่ที่_2_คาร์โบไฮเดรต.jpg

หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต 

สารอาหารหมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต เป็นสารอาหารที่ให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกาย อีกทั้งยังเป็นตัวขับเคลื่อนการทำงานของระบบอวัยวะสำคัญของร่างกาย เช่น สมอง หัวใจ รวมถึงระบบที่เกี่ยวข้องกับทางเดินหายใจ คาร์โบไฮเดรตประกอบไปด้วย ข้าว น้ำตาล แป้ง เผือก มัน พืชหัวต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ทำจากข้าวหรือแป้ง เช่น มันฝรั่ง ขนมปัง เป็นต้น

ประโยชน์ของคาร์โบไฮเดรตช่วงลดน้ำหนัก

หลายคนที่กำลังลดน้ำหนักอยู่อาจพยายามเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง จริงๆ แล้วสามารถกินได้เพราะคาร์โบไฮเดรตเป็นหนึ่งในสารอาหาร 5 หมู่ที่จำเป็นต่อร่างกาย เพียงแค่ต้องเลือกกินในปริมาณที่เหมาะสม โดยการกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตมีประโยชน์ ดังนี้

  • ช่วยให้ระบบเผาผลาญไขมันของร่างกายทำงานได้ปกติ
  • ช่วยเผาผลาญพลังงาน แต่ต้องกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตชนิดดี เพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไป
  • คาร์โบไฮเดรตช่วยเหนี่ยวรั้งโปรตีนไม่ให้ถูกเผาผลาญเป็นพลังงานไปทั้งหมด เพื่อที่โปรตีนจะได้ไปซ่อมแซมร่างกายในส่วนที่สึกหรอ

ควรกินคาร์โบไฮเดรตอย่างไรช่วงลดน้ำหนัก8

สำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ควรกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตอย่างน้อย 135 - 195 กรัมต่อวัน แนะนำให้กินอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเพื่อให้อิ่มนานขึ้นและร่างกายได้รับใยอาหารที่มีส่วนช่วยในการขับถ่าย ได้แก่

  • ข้าวโอ๊ต (ปริมาณ 100 กรัม จะให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรตประมาณ 66 กรัม) ในข้าวโอ๊ตมีเส้นใยอยู่มาก ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจอีกด้วย
  • ข้าวกล้อง (ปริมาณ 100 กรัม จะให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรตประมาณ 23 กรัม) แนะนำให้กินข้าวที่ไม่ได้ขัดสีอย่างข้าวกล้อง เพราะข้าวกล้องอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ ที่ดีต่อร่างกาย
  • ถั่วแดง (ปริมาณ 100 กรัม จะให้สารอาหารคาร์โบไฮเดรตประมาณ 61 กรัม) โดยถั่วแดงจะช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล อีกทั้งยังช่วยเรื่องระบบเผาผลาญให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดี

หากร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรตจะส่งผลอย่างไร

สารอาหารอย่างคาร์โบไฮเดรตมีคุณสมบัติที่ช่วยเรื่องการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย หากร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรตมักเกิดอาการผิดปกติ ดังนี้

  • มีกลิ่นปาก ระบบการทำงานของร่างกายจะเผาผลาญไขมันแทน เนื่องจากขาดสารอาหารอย่างคาร์โบไฮเดรต ทำให้เกิดภาวะคีโตซิส (Ketosis) ซึ่งเป็นการปล่อยสารคีโตน (Ketones) ออกมา ทำให้เกิดกลิ่นปาก
  • มีอาการขี้หลงขี้ลืม ระบบสมองของเราจำเป็นต้องได้รับกลูโคสในปริมาณที่เพียงพอ ซึ่งกลูโคสเกิดจากคาร์โบไฮเดรตที่ถูกย่อยสลาย ผู้ที่ขาดคาร์โบไฮเดรตจึงมักจะมีอาการหลงๆ ลืมๆ อยู่ตลอด
  • มีภาวะอารมณ์แปรปรวน เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการผลิตเซโรโทนิน (Serotonin) ในร่างกาย ซึ่งสารเคมีตัวนี้ช่วยทำให้อารมณ์ดี
  • มีอาการท้องผูกบ่อยๆ สารอาหารอย่างคาร์โบไฮเดรตมักอยู่ในอาหารที่มีไฟเบอร์สูง หากงดกินคาร์โบไฮเดรต หรือกินน้อยจนร่างกายขาด ก็มักจะมีอาหารท้องผูกบ่อยๆ

หมู่ที่_3_เกลือแร่หรือแร่ธาตุ.jpg

หมู่ที่ 3 เกลือแร่หรือแร่ธาตุ 

ประเภทของอาหาร 5 หมู่ อย่างสารอาหารหมู่ที่ 3 เกลือแร่หรือแร่ธาตุ เป็นสารอาหารที่ไม่ให้พลังงาน มักพบในกลุ่มพืชผักเป็นหลัก ซึ่งมีทั้งผักใบเขียว ใบผักสีต่างๆ เช่น สีเหลือง สีขาว สีม่วง หรือสีอื่นๆ ซึ่งเกลือแร่จะช่วยให้ระบบในร่างกายทำงานได้ตามปกติ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพ โดยเกลือแร่แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่

  1. เกลือแร่หลัก หรือเกลือแร่ที่จำเป็นต้องได้รับในปริมาณที่มากกว่าวันละ 100 มิลลิกรัม ทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม กำมะถัน คลอรีน และคลอไรต์
  2. เกลือแร่รอง คือเกลือแร่ที่ร่างกายต้องการน้อยกว่าวันละ 100 มิลลิกรัม มีทั้งเหล็ก สังกะสี แมงกานิส ทองแดง ซิลีเนียม ไอโอดีน โครเมียม โคบอลท์ ฟลูออไรด์ โมลิบดินัม และวานาเดียม

ประโยชน์ของเกลือแร่หรือแร่ธาตุช่วงลดน้ำหนัก

ในช่วงที่ลดน้ำหนักสารอาหารประเภทเกลือแร่หรือแร่ธาตุถือเป็นตัวช่วยบำรุงระบบภายในร่างกาย เกลือแร่นั้นอุดมไปด้วยวิตามินที่หลากหลาย มีไฟเบอร์สูง ทำให้เกลือแร่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน เช่น

  • ช่วยรักษาสมดุลของน้ำทั้งภายในและภายนอกเซลล์
  • ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านกิน รวมถึงเสริมสร้างความแข็งแรงของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
  • แมกนีเซียมที่ได้จากเกลือแร่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ร่างกายเผาผลาญกลูโคสให้กลายเป็นพลังงาน
  • เกลือแร่หรือแร่ธาตุอยู่ในผักนานาชนิดที่มีใยอาหารอยู่มาก ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลำไส้ทำงานได้ดี

ควรกินเกลือแร่หรือแร่ธาตุอย่างไรช่วงลดน้ำหนัก2 

ปริมาณสารอาหารเกลือแร่หรือแร่ธาตุที่ควรได้รับขึ้นอยู่กับประเภทของเกลือแร่ หากเป็นเกลือแร่หลักควรกินอาหารจำพวกที่มีแคลเซียมและโพแทสเซียมสูง ได้แก่ ผักใบเขียวต่างๆ อย่างผักบุ้ง ใบยอ ตำลึง เป็นต้น และสำหรับเกลือแร่รองควรกินอาหารจำพวกที่มีธาตุเหล็ก สังกะสี ทองแดง ได้แก่ โหระพา ผักโขม ผักคะน้า เป็นต้น2

หากร่างกายขาดเกลือแร่หรือแร่ธาตุจะส่งผลอย่างไร

หากร่างกายขาดเกลือแร่หรือแร่ธาตุมักส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติ ดังนี้

  • อาการปากซีด ตัวซีด สามารถสังเกตได้จากสีปากและสีผิวว่ามีสีซีดลง ในบางรายอาจเป็นสีขาวซีด3
  • มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก อาจทำให้มีอาการอ่อนเพลีย เวียนหัวง่าย
  • มีภาวะขาดน้ำ สังเกตได้จากปริมาณปัสสาวะที่น้อยลงจนผิดปกติ
  • อาจเกิดภาวะกระดูกบางหรือกระดูกพรุน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการขาดแคลเซียม4
  • นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย อาจเกิดจากการขาดแมกนีเซียม ซึ่งแมกนีเซียมมีคุณสมบัติที่ช่วยคลายเครียด อีกทั้งยังช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายอีกด้วย

หมู่ที่ 4 วิตามิน

สารอาหารหมู่ที่ 4 วิตามิน เป็นสารอาหารที่ไม่ให้พลังงาน ถือเป็นสารอาหารรองเนื่องจากไม่ได้สร้างพลังงาน แต่วิตามินก็เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อระบบการทำงานของร่างกาย เพราะหากขาดวิตามินร่างกายจะไม่สามารถทำงานต่อได้และมีอาการผิดปกติแสดงออกมา5 โดยวิตามินแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่

  1. วิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามิน A วิตามิน D วิตามิน E วิตามิน K
  2. วิตามินที่ละลายในน้ำ ได้แก่ วิตามิน C และวิตามิน B รวม

ประโยชน์ของวิตามินในช่วงลดน้ำหนัก

วิตามินเป็นสารอาหารที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายที่ช่วยให้บำรุง เสริมสร้างระบบการทำงานในร่างกายของเราให้ดีขึ้น6 ประโยชน์ของวิตามินในช่วงลดน้ำหนักได้มีดังนี้

  • วิตามินช่วยในการมองเห็นของดวงตา
  • ช่วยเผาผลาญโปรตีนในร่างกายให้เกิดพลังงาน
  • ช่วยบำรุงสุขภาพปาก รวมถึงสุขภาพเหงือกและฟัน
  • ช่วยลดอาการไขมันอุดตันในเลือด ช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น
  • ช่วยดูแลระบบอวัยวะต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานได้ตามปกติ

ควรกินวิตามินอย่างไรช่วงลดน้ำหนัก2

ปริมาณที่เหมาะสมในการกินวิตามินจะแตกต่างกันออกไปตามชนิดของวิตามิน แนะนำให้กินวิตามินในปริมาณที่เหมาะสม ดังนี้

  • วิตามิน B1 เช่น เมล็ดทานตะวัน ข้าวซ้อมมือ โดยปริมาณที่แนะนำต่อวันอยู่ที่ 1.5 มิลลิกรัม
  • วิตามิน B2 เช่น ตับ ผักใบเขียว ข้าวโอ๊ต โดยปริมาณที่แนะนำต่อวันอยู่ที่ 1.7 มิลลิกรัม
  • วิตามิน C เช่น มะนาว ส้ม กีวี่ ฝรั่ง โดยปริมาณที่แนะนำต่อวันอยู่ที่ 60 มิลลิกรัม
  • วิตามิน D เช่น ตับ ไข่แดง น้ำมันตับปลา โดยปริมาณที่แนะนำต่อวันอยู่ที่ 60 มิลลิกรัม

การกินวิตามินเพื่อลดน้ำหนักและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ

การกินอาหาร 5 หมู่ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยวิตามินและแร่ธาตุมีบทบาทในการลดน้ำหนักและส่งเสริมสุขภาพในหลายด้าน ดังนี้

  • วิตามิน B เป็นกลุ่มวิตามินที่ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน อีกทั้งยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ลดความอยากอาหารและน้ำตาล ทำให้ควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น12,13
  • วิตามิน D มีส่วนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและการทำงานของอินซูลิน นอกจากนี้ยังลดการสะสมไขมัน โดยเฉพาะไขมันหน้าท้อง และเพิ่มระดับเซโรโทนินซึ่งช่วยควบคุมความอยากอาหาร12,13
  • แคลเซียม ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน และลดการดูดซึมไขมันจากอาหาร รวมถึงควบคุมฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการสะสมไขมัน12,13
  • โพแทสเซียม ช่วยควบคุมสมดุลน้ำ ลดการบวมน้ำและการกักเก็บโซเดียม นอกจากนี้ยังช่วยเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด12,13
  • ธาตุเหล็ก ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงเพื่อลำเลียงออกซิเจนไปยังเซลล์ต่างๆ ทำให้การเผาผลาญพลังงานมีประสิทธิภาพและเพิ่มพลังงานในการออกกำลังกาย12,13
  • แมกนีเซียม ช่วยเผาผลาญพลังงานและไขมัน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ลดความอยากน้ำตาล และยังช่วยให้นอนหลับดีขึ้น ซึ่งการนอนหลับที่เพียงพอช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดี12,13

หากร่างกายขาดวิตามินจะส่งผลอย่างไร6

วิตามินเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ช่วยรักษากลไกการทำงานให้เป็นไปตามปกติ วิตามินมีหลากหลายชนิด โดยแต่ละชนิดมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน ทั้งบำรุงสายตา บำรุงเลือด ฯลฯ เมื่อร่างกายขาดวิตามินมักมีอาการผิดปกติตามมาดังนี้

  • นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย อาจเกิดจากการขาดวิตามิน B ควรกินอาหารที่มีวิตามิน B6 เนื่องจากวิตามินตัวนี้มีส่วนช่วยสร้างสารเซโรโทนินในสมอง ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น
  • เลือดกำเดาไหลง่าย ไหลบ่อย แต่หยุดไหลช้า เป็นอาการที่เกิดจากการขาดวิตามิน K
  • ผิวแห้ง ผิวหยาบกร้าน เมื่อลองสัมผัสร่างกายตัวเองแล้วพบว่าผิวหนังมีความแห้ง แตกเป็นขุย หรือผิวหยาบกร้าน ไม่นุ่มเหมือนเดิม อาจเกิดจากการขาดวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด เช่น ขาดวิตามิน A วิตามิน E และวิตามิน C
  • มีอาการตากระตุก อาจเกิดจากการขาดวิตามิน B12

หมู่ที่_5_ไขมัน.jpg

หมู่ที่ 5 ไขมัน 

สารอาหารหมู่ที่ 5 ไขมัน ประกอบไปด้วยอาหารจำพวกเนย ครีม น้ำมันต่างๆ รวมทั้งสามารถพบไขมันได้จากน้ำมันพืช น้ำมันปลา และไขมันสัตว์อีกด้วย ซึ่งการกินอาหารประเภทไขมันจะช่วยสร้างพลังงานให้แก่ร่างกาย แต่หากกินไขมันมากเกินไปก็จะเกิดไขมันสะสมในร่างกาย เกิดโรคอ้วน และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมา จึงต้องกินไขมันในปริมาณที่เหมาะสม

ประโยชน์ของไขมันช่วงลดน้ำหนัก

ในช่วงที่กำลังลดน้ำหนักหลายๆ คนคงไม่อยากกินไขมัน แต่ไขมันถือเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย โดยมีประโยชน์หลักๆ ได้แก่

  • เป็นตัวนำวิตามิน A, D, E, K เข้าสู่กระแสเลือด เพราะเป็นวิตามินที่ละลายได้ในไขมันเท่านั้น
  • ช่วยให้พลังงานและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
  • ช่วยให้อาหารเคลื่อนตัวผ่านลำไส้ได้ดีขึ้น

ควรกินไขมันอย่างไรช่วงลดน้ำหนัก8

ในช่วงที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ยังจำเป็นต้องกินอาหาร 5 หมู่ให้ครบถ้วน แต่ควรเลือกกินไขมันที่ดีต่อสุขภาพและกินในปริมาณที่เหมาะสม ควรเลือกกินอาหารที่มีไขมันดี ได้แก่ ปลาแซลมอน น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน ถั่วเหลือง เป็นต้น7 

ปริมาณที่ควรกินไขมันให้คำนวณจากพลังงานที่คนเราต้องการอยู่ที่ประมาณ 2,000 แคลอรี พลังงานที่ได้รับมาจากไขมันจะอยู่ที่ 20 - 30% ของพลังงานทั้งหมด8 ซึ่งควรได้รับพลังงานไขมันอยู่ที่ 400 - 600 แคลอรี หรือไขมัน 50 - 75 กรัมต่อวัน

หากร่างกายขาดไขมันจะส่งผลอย่างไร

ไขมันเป็นหนึ่งในอาหาร 5 หมู่ที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่จะต้องกินไขมันในระดับที่พอดี ซึ่งหากไม่กินไขมันเลย จนร่างกายขาดไขมันจะส่งผลดังนี้

  • ผิวหนังแห้งกร้าน มีความรู้สึกว่าผิวหนังแห้งมากกว่าปกติ หรือพบว่ามีเศษผิวหนังหลุดลอกออกมา 
  • ขี้หนาว ไขมันช่วยสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย หากพบว่ามีอาการหนาวง่าย รู้สึกหนาวทั้งๆ ที่อากาศร้อนอาจเกิดจากปัญหาร่างกายขาดไขมัน
  • ประจำเดือนมาผิดปกติ เนื่องจากไขมันทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของฮอร์โมน อาจทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติได้
  • สมาธิสั้น เนื่องจากไขมันถือเป็นหนึ่งในสารอาหารที่ให้พลังงานสูง เมื่อร่างกายขาดไขมันจะทำให้มีพลังงานไปหล่อเลี้ยงร่างกายน้อย จะทำให้สมาธิสั้นกว่าคนที่กินอาหาร 5 หมู่ครบถ้วน

สรุป

สารอาหาร 5 หมู่ประกอบไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ ซึ่งสารอาหาร 5 หมู่เหล่านี้ล้วนเป็นสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หากขาดสารอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งมักมีอาการผิดปกติตามมา ดังนั้น ในช่วงลดน้ำหนักก็จำเป็นต้องกินสารอาหาร 5 หมู่ให้ครบถ้วน เพียงแต่ต้องรู้จักจำกัดปริมาณอาหารที่จำเป็น เมื่อกินสารอาหารครบถ้วน กินอาหารเพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอก็จะสามารถลดน้ำหนักควบคู่กับการมีสุขภาพที่ดีได้

ข้อมูลอ้างอิง

Reference

  1. MedThai. 16 ประโยชน์ของเกลือแร่ ! (Minerals). medthai.com. Published 25 June 2020. Retrieved 20 March 2023.

  2. ChoiceChecker. วิตามิน แร่ธาตุ แต่ละอย่างควรได้รับปริมาณเท่าไรต่อวัน. choicechecker.com. Published 13 September 2022. Retrieved 20 March 2023.

  3. Bumrungrad. เลือกดื่มเกลือแร่ให้เป็น ชดเชยน้ำให้ถูกวิธี. bumrungrad.com. Published 8 August 2019. Retrieved 20 March 2023.

  4. Pobpad. หลากวิธีเติมแร่ธาตุ… เพราะร่างกายขาดเกลือแร่ไม่ได้. pobpad.com. Retrieved 20 March 2023.

  5. ภญ. เสาวลักษณ์ ตุรงคราวี. วิตามินและแร่ธาตุคืออะไร?? ทำไมจึงสำคัญ??. pharmacy.mahidol.ac.th. Published 11 October 2017. Retrieved 20 March 2023.

  6. Pharm TU. วิตามิน......สารอาหารตัวเล็กๆแต่คุณค่ามหาศาล. pharm.tu.ac.th. Retrieved 20 March 2023.

  7. ธิติรัตน์ สมบูรณ์. กิน “คีโต” อย่างเข้าใจ ลดน้ำหนักได้ สุขภาพดี. chula.ac.th. Published 16 March 2022. Retrieved 20 March 2023.

  8. ผศ.ดร.พิมพ์เพ็ญ พรเฉลิมพงศ์. รู้จักแคลอรี่. hpc.go.th. Retrieved 20 March 2023.

  9. ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.นิธิยา รัตนาปนนท์. ถั่วเหลืองอาหารวิเศษ. foodnetworksolution.com. Retrieved 26 April 2023. 

  10. Pobpad. เมล็ดเจีย ประโยชน์ดีต่อสุขภาพ. pobpad.com. Retrieved 26 April 2023. 

  11. Alissa Palladino. How Protein Can Help You Lose Weight Naturally. healthline.com. Retrieved 06 February 2025. 

  12. Medically reviewed. 5 Vitamins and Minerals to Boost Your Metabolism and Promote Weight Loss. healthline.com. Retrieved 06 February 2025. 

  13. Medically reviewed. Vitamins and minerals for metabolism. medicalnewstoday.com. Retrieved 06 February 2025. 

shop now